ทายาทรุ่น 2 รพ.เกษมราษฎร์ จับมืออดีต บก.โพสต์ทูเดย์ ปั้นสำนักข่าวใหม่ "The Better"
เปิดตัวสำนักข่าวใหม่ “เดอะ เบทเทอร์” อดีต บก.โพสต์ทูเดย์ประสานมือผู้สืบสกุลรุ่นที่ 2 เครือโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ แล้วก็ผู้ครอบครองสถาบันสอนการลงทุน ปั้นสื่อออนไลน์ พร้อมกอง บก.ล้วนเป็นอดีต บก.ข่าวสารโพสต์ทูเดย์ เน้นข่าวเศรษฐกิจและก็การลงทุน ด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้าน
25 เดือนมกราคม รายงานข่าวแจ้งว่า บริษัท เดอะ เบทเทอร์ นิวส์ จำกัด ได้ทำพิธีเปิดสำนักข่าวที่ชื่อว่า เดอะ เบทเทอร์ (The Better) ที่ห้องเพิร์ลโดม อาคารเพิร์ลบางกอก ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ซึ่งสำนักข่าวดังกล่าวได้วางรูปแบบให้เป็นสำนักข่าวด้านเศรษฐกิจแล้วก็การลงทุน หลังจากได้เปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊กเพจเป็น The Better news เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 และก็เริ่มนำเสนอเนื้อหาไปเมื่อวันที่ 21 เดือนธันวาคม 2565
ที่ผ่านมาสำหรับ บริษัท เดอะ เบทเทอร์ นิวส์ จำกัด มีนายกันตพร หาญพาณิชย์ ผู้สืบสกุลรุ่นที่ 2 ของบริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเครือโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ แล้วก็โรงพยาบาลเวิลด์ เมดิคอล พร้อมกับ นายกระทรวง จารุศิระ ผู้ริเริ่มโครงการซูเปอร์ เทรดเดอร์ ไทยแลนด์ (Super Trader Thailand) รวมทั้งนายวุฒิ นนทฤทธิ์ อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และโพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นกรรมการบริษัท
นายกันตพรกล่าวว่า ตนไม่ได้มีความคิดที่จะเข้าสู่ธุรกิจสื่อตั้งแต่ต้น แต่ปีที่ผ่านมาได้รู้จักกับนายวุฒิ เลยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสำนักข่าวแห่งนี้ โดยมีสองเรื่องหลักที่อยากมองเห็น รวมทั้งนายวุฒิเห็นพ้องด้วย คือ พวกเราต้องการทำสื่อที่ดียิ่งกว่า เพื่อเมืองไทยที่ดียิ่งกว่าในอนาคต ซึ่งนายวุฒิมีประสบการณ์ด้านข่าวสารกว่า 30 ปี กับการนำเสนอ ในช่องทางที่ดีมากยิ่งกว่า ซึ่งเป็นไปตามยุคตามสมัย สามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นหลังที่จะขับเคลื่อนประเทศในอนาคต
อีกเรื่องหนึ่ง คือ นายวุฒิยืนยันความเป็นกลางของสำนักข่าว
ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญของสำนักข่าว การที่สำนักข่าวเป็นกลางนั้นพูดง่าย แต่ความเป็นกลางในความหมายของแต่ละคนบางทีอาจต่างกัน สำหรับตนไม่ได้หมายความว่าพูดถึงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่ากันแล้วเรียกว่าเป็นกลาง แต่เป็นการนำเสนอความจริงบนหลักฐานที่ประจักษ์ ไม่มีการชี้นำของผู้นำเสนอ ซึ่งหมายถึงผู้สื่อข่าวหรือสำนักข่าว ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนที่จะสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจให้เกิดผลดีสูงสุด
ด้านนายกระทรวงกล่าวว่า ส่วนตัวรู้จักกับนายวุฒิหลายปี นับว่าเป็นพี่ชายและก็ผู้ใหญ่ที่เคารพรักที่สุด พอทราบว่านายวุฒิมีไอเดียที่จะทำสำนักข่าวแห่งใหม่ ตนก็เลยสนใจ เพราะเหตุว่าในมุมของตนทำสถาบันสอนการลงทุน รู้ดีว่าคนไทยคนจำนวนไม่น้อยแสวงหาวิชาความรู้ ตนเป็นอีกคนหนึ่งที่พยายามจะไม่เสพข่าวสารอาชญากรรม ไม่ชอบอ่านข่าวชาวบ้าน ก่อนหน้านั้นก็จะอ่านข่าวเศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน เอสเอ็มอี เพราะมีความรู้สึกว่าสามารถพัฒนาตนเองและมีความรู้และความเข้าใจมากขึ้น
พอเป็นหนึ่งในผู้จัดตั้ง จึงมีความรู้สึกว่าพวกเราสามารถที่จะพัฒนาตัวเองให้มีความเข้าใจมากขึ้น ผ่านการอ่านสื่อที่มีคุณภาพ เมื่อปณิธานของนายวุฒิและตนตรงกัน ก็บอกว่าในมุมของการทำสถาบันสอนการลงทุน มีลูกลูกศิษย์หลายพันคน มีคนที่เก่งในการลงทุนหลายรูปแบบที่แตกต่างกัน จะนำความรู้ทั้งหมดบนโลกที่เกี่ยวกับการเงิน การลงทุนมาเผยแพร่ ซึ่งเมื่อความต้องการตรงกันจึงเป็นพันธกิจที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ให้ทุกคนได้มีความคิดเห็นว่าทำไมต้องพัฒนาศักยภาพในตัวเรา เพื่อชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ส่วนนายวุฒิกล่าวว่า ตั้งแต่แมื่อวันที่เจอกับนายกันตพร
ถึงวันที่เริ่มตัดสินใจ ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนเศษ นายกันตพรรวมทั้งนายกระทรวงเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจรวมทั้งเชื่อมั่นในสถาบันสื่อ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เมืองไทยดียิ่งขึ้น ที่ผ่านมาตนและก็ทีมงานมีนายทุนหลายกลุ่มเสนอตัวเกื้อหนุน แต่สุดท้ายก็ต้องการจะอยู่กับนายทุนแบบใหม่จริง ๆ ที่ตัดสินใจทำธุรกิจโดยไม่ได้แสวงหาประโยชน์สูงสุดทางธุรกิจ ตนสบายใจที่มาเลือกทั้งสองคน
ดังนี้ สิ่งที่อยู่ในใจก็คือ ตนมีประธานที่ปรึกษา คือ นาย ณ กาฬ เลาหะวิไลย อยู่ในวงการสื่อมา 35 ปี ตนมีประสบการณ์ 30 ปี ส่วนน้อง ๆ ประมาณ 25 ปี
ลดหลั่นกันไป ทุกคนทำข่าวในประเทศขนาดนี้ เสียดายว่าเพราะเหตุไรประเทศไทยหยุดนิ่งอยู่เพียงเท่านี้
เพราะเหตุใดความเจริญไม่พัฒนาก้าวไกลไปกว่านี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะการเสนอข้อมูลข่าวสารสารจากสื่อหลายสื่อ สื่อที่ดีมีมาก แต่สื่อที่มีคอนเทนต์แบบมีอคติก็มาก สื่อที่บางทีอาจเสนอข้อมูลไม่ครบก็มี เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สังคมเกิดความสับสน ไม่ชัดเจน
ตนได้เรียนกับนายกันตพรรวมทั้งนายกระทรวงตั้งแต่วันแรกว่า หากจะทำสำนักข่าว จะทำสิ่งแรกเป็น เอาข้อเท็จจริงที่เป็นเรื่องจริงครบสมบูรณ์ ให้คนไทยทุกคน ทุกระดับมีสิทธิ์เข้าถึงข้อเท็จจริงอย่างเท่าเทียมกัน แล้วรู้ดีว่าความจริงเมืองไทยคืออะไร ในด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือการเมืองก็ตาม ทุกคนจะเอาสิ่งนี้ไปพัฒนาตัวเอง ยกระดับคุณภาพของครอบครัว สุดท้าย ธุรกิจเติบโต สังคมไทยดียิ่งขึ้น ประเทศไทยก็จะดียิ่งขึ้น เป็นคอนเซ็ปต์ที่ตั้งใจจะทำ แล้วก็ทีมงานทุกคนมุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลกลุ่มนี้
รายงานข่าวสารเพิ่มเติมกล่าวว่า เดอะ เบทเทอร์
สำหรับโครงสร้างของสำนักข่าวเดอะ เบทเทอร์ มีนาย ณ กาฬ เลาหะวิไลย อดีตบรรณาธิการอำนวยการเครือบางกอกโพสต์ เป็นประธานที่ปรึกษา มีนายวุฒิ นนทฤทธิ์ อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และโพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นบรรณาธิการบริหาร พร้อม นายวิษณุ นุ่มทอง อดีตบรรณาธิการข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
แล้วก็อดีตผู้ช่วยบรรณาธิการ โพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นบรรณาธิการข่าวการเมือง
นายชนิกา สุขสมจิตร อดีตหัวหน้าข่าวเศรษฐกิจมหภาค หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ แล้วก็อดีตหัวหน้าข่าวสารเศรษฐกิจ โพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจ, นายเกียรติศักดิ์ ผิวเกลี้ยง
อดีตผู้สื่อข่าวการเงินหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และอดีตหัวหน้าข่าวการเงินโพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นบรรณาธิการข่าวการเงิน และก็ นางสาวดวงใจ จิตต์มงคล เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ทำหน้าที่สร้างสรรค์เนื้อหาข่าวสารเศรษฐกิจและธุรกิจการตลาด
ข้อมูลที่ได้รับมาจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า บริษัท เดอะ เบทเทอร์ นิวส์ จำกัด จดทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 ทุนเพื่อการจดทะเบียน 20 ล้านบาท มีนายวุฒิ นนทฤทธิ์
และก็นายกระทรวง จารุศิระ เป็นกรรมการบริษัท ซึ่งกรรมการลงนามผูกพัน มีนายวุฒิ นนทฤทธิ์ หรือ นายกระทรวง จารุศิระ
ลงนามร่วมกับ นายกันตพร หาญพาณิชย์ หรือ นางสาวชาลิสา พอใช้ได้ หรือ นางสาวลักษมีลาวัลย์ หาญพาณิชย์ รวมเป็นสองคนแล้วก็ประทับตราสำคัญของบริษัท วัตถุประสงค์ธุรกิจตอนจดทะเบียน ประกอบกิจการโรงพิมพ์ มีที่ทำการที่ซอยรามคำแหง 53 เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ