Category ข่าวบันเทิง

จัดว่าโลกได้อ้าแขน ต้อนรับการมาของ M3GAN หุ่นสาวสุดสยดสยองตัวใหม่ ที่กระหึ่มไม่เบา กลายเป็นการประเดิมเริ่มเปิดปีใหม่ ได้อย่างเป็นปรากฏการณ์ ถึงแม้พลังความแรงของเธอ บางทีก็อาจจะยังแรงไม่พอ ที่จะแซงหน้าแชมป์เก่า หนังบ็อกซ์บัสเตอร์เรื่องมหึมา แต่ว่าก็สามารถแย่งซีน และสร้างกระแส ทำให้เหล่าชาวนาวี แผ่วแรงลงไปบ้างได้เช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นบ็อกซ์ออฟฟิศ เริ่มปีได้อย่างน่าสนใจไม่เบา

และแน่นอน ว่าสุดสัปดาห์นี้ “Avatar: The Way of Water”

ก็ยังคงครองบัลลังก์ได้อีกต่อไป เข้าสู่อาทิตย์ที่ 4 ต่อเนื่อง กันอย่างงดงาม ผ่านพ้นตอนเทศกาลวันหยุดไปแล้ว แต่รายได้ ก็ยังน่าพอใจอยู่ เก็บไปได้อีก 45 ล้านเหรียญ ลดลงมาเพียง -33% พร้อมกับยังครองรอบ และโรงฉายทั่วอเมริกาได้มากที่สุดถัดไป โดยสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังมีการเพิ่มโรงฉายขึ้นอีก ประมาณหนึ่ง แต่รายได้เฉลี่ย ต่อโรงก็ยังสู้ แตะหลักหมื่นเหรียญแบบ ไม่ยอมตกลงมา

รายได้รวมในอเมริกาตอนนี้ทะยานไปที่ 516 ล้านเหรียญ ส่วนรายได้รวมทั่วทั้งโลก ปัจจุบันนี้ก็พุ่งไปอยู่ที่ 1.7 พันล้านเหรียญ

ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ ที่ 7 ของรายได้หนังทำเงินสูงสุด ตลอดกาลของโลก และดูทรงแล้วว่า ก็ไปสู่รายได้ 2 พันล้านเหรียญ น่าจะไม่ได้ใช่อุปสรรคอีกต่อไปแล้ว คาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกราว 10 วันถัดจากนี้ เราน่าจะได้เห็นหนังเรื่องนี้ ก้าวขึ้นสู่หนัง 2 พันล้านเหรียญ ซึ่งจะกลายเป็นเรื่องที่ 6 ในประวัติศาสตร์ ที่ทำได้

ส่วนสัปดาห์นี้ ก็จะต้องเปิดทางให้กับนาง “M3GAN” หนังหุ่นพี่เลี้ยงสะพรึง เป็นหนังใหม่ ที่เปิดตัวเรื่องแรกของปี 2023 กับปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา เนื่องจากหนังสามารถ ฟันรายได้ 3 วันแรก ไปได้มากถึง 30.2 ล้านเหรียญ จาก 3,509 โรงฉายทั่วประเทศ

หรือคิดเป็นรายได้ เฉลี่ยต่อโรง ที่ประมาณ 8 พันเหรียญเศษ ๆ ที่จัดว่าแรงไม่เบาเลย หนังเรื่องนี้ ได้ทีมผู้ผลิตจากโปรดิวเซอร์ “เจมส์ วาน” ที่มีชื่อเสียงว่า เป็นเจ้าพ่อหนังสยอง มาช่วยปลุกความหลอน และก็ยังผนึกกำลังกับ บลัมเฮาส์ อีกด้วย

ข้อได้เปรียบของ M3GAN

ก็อาจจะเป็นด้วยเหตุว่าเป็นหนังสยอง ที่ถูกจัดเรทแค่เพียง PG-13 ทำให้สามารถกวาด กลุ่มผู้ชมวัยุรุ่น ที่เป็นกลุ่มที่ผลักดันนำมาซึ่งกระแสไวรัล ท่าเต้นอันเป็นตำนานล่าสุด

ในเวลานี้เข้าไปซื้อตั๋วดูหนังได้เป็นอย่างดี ทั้งยังหนังยังได้กระแสตอบรับค่อนข้างดี จากนักวิจารณ์อีกด้วย เห็นได้จากคะแนน บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ที่สูงถึง 95% หลายท่านแซวว่า สูงกว่าหนังซูเปอร์ฮีโร่ ยุคนี้ด้วยซ้ำ

แน่นอน ว่าหนังเรื่องนี้ ได้ดีเนื่องจากว่ากระแสปากต่อปาก

จากผู้ชมโดยแท้จริง ทำให้หนังสามารถ ทำเงินเปิดตัวได้สูงกว่า ที่สตูดิโอแล้วก็นักวิจารณ์คาดเอาไว้ โดย M3GAN ใช้ทุนสร้างไปแค่เพียง 12 ล้านเหรียญแค่นั้น แม้ว่าจะมิได้ใช้นักแสดง ที่เป็นที่รู้จักอะไร แต่เนื้อหาของหนัง ก็ดึงดูดความพอใจได้ดี และก็เวลานี้หนังก็สามารถเปิดตัว กับรายได้รวมทั่วโลกได้มากกว่า 45 ล้านเหรียญแล้ว

ที่ยังทำผลลัพธ์ ได้อีกเรื่องก็คือ “Puss in Boots: The Last Wish”

ที่เป็นไปตามคาดว่า หนังจะสามารถโกยรายได้ ได้ยาว ๆ เนื่องจากในช่วง 1-2 เดือนนี้ จะยังไม่มีหนังแอนิเมชั่น เรื่องใหม่ออกฉายเลย แล้วก็คำวิจารณ์ และแรงเชียร์แบบปากต่อปาก ก็ช่วยส่งเสริมหนังเรื่องนี้อย่างดีเยี่ยม

หนังทำเงินไปอีก 13.1 ล้านเหรียญ ลดน้อยลงไปเพียงแค่ -22% และก็มียอดรวม ในบ้านไปแล้วที่ 87 ล้านเหรียญ ส่วนรายได้รวมทั้งโลก ช่วงนี้ก็ใกล้แตะ 200 ล้านเหรียญแล้ว

“A Man Called Otto” หนังตลกร้ายรีเมคของ “ทอม แฮงก์ส” ที่ฤกษ์เปิดฉาย เป็นวงกว้างเยอะขึ้นในอาทิตย์นี้ ก็สามารถทำเงิน ทะยานขึ้นมาติด Top 5 ได้ กับรายได้ 4.2 ล้านเหรียญ จากเพียง 637 โรงฉายทั่วอเมริกา หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ย ที่ประมาณ 6 พันเหรียญเศษ

ถือได้ว่าเป็นการออกสตาร์ท ที่น่าพอใจ แม้ว่าหนังจะ ยังมิได้ฉายวงกว้างเต็มสตริม แต่ว่ามีแผนที่จะขาย ไปถึงกว่าพันโรง ในครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป เพียงแต่ว่าหนังจะมี กระแสบนเวทีรางวัลมา ช่วยหนุนไหม

นอกเหนือจากนี้ที่ปลายตารางยังมี “The Whale” หนังดราม่าลุ้นรางวัล ทางการแสดงของ “แบรนเดน เฟรเซอร์” ที่มีลุ้นจะได้ออสการ์ ยังทำเงินได้ดี ไปอีก 1.5 ล้านเหรียญ โดยมีการเพิ่มโรงฉายมากขึ้นอีกหน่อย เป็น 835 แห่งทั่วประเทศ

แม้ว่าจะยังมิได้ฉายแบบเต็มรูปแบบ ทั่วอเมริกา แต่ว่าในขณะนี้ก็เก็บรายได้ มาตุนเอาไว้ที่ 8 ล้านเหรียญเศษ ๆ หนังยังมีอนาคตอีกไกล ไปจนช่วงฤดูกาลล่ารางวัล จะสิ้นสุดลงในมีนาคม

สำหรับสัปดาห์ที่จะถึงนั้น ที่นอกเหนือจากที่จะมี A Man Called Otto ขยายโรงฉายเป็นวงกว้างขึ้น หลักพันโรงฉายทั่วอเมริกาแล้ว ยังมีหนังใหม่มาอีก 3 เรื่องนี้ ได้แก่ หนังแอคชั่นเรื่องใหม่ของ “เจอราร์ด บัตเลอร์” ที่จัดแจงแลนดิ้งใน “Plane” ตามมาด้วยหนังตลกรีเมค ที่เฉพาะกลุ่มคนอเมริกันผิวสี “House Party” และหนังเขย่าขวัญไซไฟ “The Devil Conspiracy” มีแผนจะฉาย ในวงค่อนข้างจะกว้าง

หลังจากที่เป็นประเด็นร้อนมา ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา สำหรับกระแสข่าวลือจบความสัมพันธ์ ระหว่างนางเอกซุปตาร์ตัวแม่ อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ กับแฟนหนุ่ม ไฮโซพก ประธานวงศ์ พรประภา ทำเอาหลายท่านโยงไปว่า สาเหตุของการเลิกราคราวนี้ อาจเป็นเพราะมีมือที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้อง

ล่าสุดวันที่ (4 มกราคม) ไฮโซพก ได้ออกมาประกาศกลางไอจีสตอรี่ ขอตกลงจบความสัมพันธ์กับ อั้ม พัชราภามาสักระยะนึง ด้วยเหตุผลของคนสองคน ซึ่งไม่มีมือที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้องแน่ ๆ

โดยข้อความดังกล่าว บอกว่า

“ผมเห็นข่าวแล้ว ไม่ค่อยสบายใจจึงตัดสินใจ เสริมเรื่องราวให้นิดหนึ่งนะครับ ตอนนี้ผมเห็น หลายบุคคลได้โดนโยงเข้ามา ก็เห็นควรที่จะต้องออกมา อธิบายนิดนึงในเรื่องที่ คิดว่าควรเป็นเรื่องส่วนตัว ผมรู้สึกไม่ดีที่จะต้องทำให้ผู้ที่ มิได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย จะต้องมาเดือดร้อนเพราะเรื่องของผม

ตั้งแต่เราคบกันมา ผมไม่เคยมีแม้แต่ คิดว่าจะมีหรือต้องการมีมือที่สาม ด้วยความที่คุณอั้มเป็นผู้หญิงที่ดี ที่ผมรักและให้เกียรติตลอดมา จนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าเราได้ตกลงยุติความสัมพันธ์มาระยะนึง (หลังวันเกิดนิดนึง) ด้วยเหตุผลของคนสองคน

เกือบจะ 5 ปีที่ผ่านมา คุณอั้มเป็นคนที่ดี และดีกับผมและครอบครัวมากตลอด เรามีทั้งเวลาทุกข์ และก็เวลาที่สุข และพยายามมาด้วยกันมาก จนกระทั่งวันนี้ผมก็ยัง ให้เกียรติคุณอั้มเสมอ ผมขอขอบคุณทุกคน ที่เป็นกำลังใจให้เราสองคนตลอดมา”

ทั้งนี้ มีนางเอกหลายคน ที่ถูกโยงว่าเป็นมือที่สาม

มิน พีชญา ลั่นไม่ใช่นางเอก ม. มือที่ 3 ฉก ไฮโซพก จากอก อั้ม พัชราภา

จู่ ๆ ก็งานเข้าโดยไม่ทันรู้ตัว สำหรับนางเอกหน้าสวย มิน พีชญา วัฒนามนตรี ที่ติดโผเป็นหนึ่งในนางเอก ม. ที่ถูกเม้าท์ลั่นโซเชียลฯ ว่าเป็นนางเอกดัง ซุ่มเงียบเป็นบุคคลที่สามแย่งไฮโซ พก ประธานวงศ์ พรประภา แฟนหนุ่ม ของนางเอกซุปตาร์ อั้มพัชราภา ไชยเชื้อ ที่กำลังจะมีข่าวลือรัก 5 ปีร้าว อยู่ในขณะนี้

โดย มิน พีชญา เผยว่า “กับข่าวนี้ มินตกใจมาก และก็งงมากว่าอยู่ดี ๆ หวยมาออกเป็นมินได้ยังไง เพราะว่ามินเองก็อยู่ของมินเฉย ๆ ทีแรกมีพี่ ๆ เพื่อน ๆ ที่สนิทหลายคนส่งข่าวนี้ มาให้อ่านว่ามีข่าวลือนางเอก ม.ม้า แย่งแฟนนางเอกซุปตาร์ มินเองก็ยังเฉย ๆ นะ เนื่องจากว่าเรามิได้เกี่ยวอะไรอยู่แล้ว แต่ว่าไป ๆ มา ๆ มีคนเข้ามาคอมเมนต์ ในอินสตาแกรมของมิน เข้ามาไดเรกต์ข้อความ ในอินสตาแกรมของมิน เราก็เลยรู้สึกไม่ดี

ด้วยเหตุนั้นมินขออธิบายตรงนี้เลยนะว่า ข่าวลือนี้ ไม่ใช่มินแน่นอน ล้านเปอร์เซ็นต์ค่ะ มินขอร้องว่า อย่าดึงมินเข้าไป เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วยเลย เราอยู่ของเราเฉย ๆ และก็ที่ผ่านมามินก็ย้ำมาตลอดว่า เวลานี้เราเองก็ยังโสด และก็ถึงจะมีคนคุยอยู่อย่างที่เคย ให้สัมภาษณ์ไปหลาย ๆ ครั้ง แต่เราก็ไม่เคยคุยกับใคร ที่มีแฟนแล้ว หรือคิดที่จะไปแย่งแฟนใครแน่ ๆ ค่ะ”

แมท ภีรนีย์ เคลียร์ชัดหลัง ถูกโยงเป็นมือที่ 3 อั้ม พัชราภา – ไฮโซพก เลิกกัน

หลังจากที่นางเอกหน้าสวย แมท ภีรนีย์ คงไทย ถูกโยงเป็นหนึ่งในนางเอก ม. ที่ถูกเม้าท์ลั่นโซเชียลว่า คือนางเอกดังซุ่มเงียบ เป็นมือที่สามแย่ง ไฮโซพก ประธานวงศ์ พรประภา แฟนหนุ่ม ของนางเอกซุป’ตาร์อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ ที่กำลังจะมีข่าวลือรัก 5 ปีร้าว อยู่ขณะนี้

ล่าสุด ทางผู้จัดการส่วนตัวสาว แมท ภีรนีย์ ได้ให้สัมภาษณ์ โดยเผยว่า “ยอมรับว่ามีการจับมือกันจริง ด้วยเหตุว่ามันเป็นงานปาร์ตี้ปีใหม่ ในคืนเคาท์ดาวน์ วันที่ 31 ธ.ค. ก่อนหน้าที่ผ่านมา แล้วก็พบกันแค่วันนั้นวันเดียว

ซึ่งในงานคืนนั้น ก็มีการเต้น แล้วก็จับมือทักทายกันปกติ แต่มิได้มากกว่าพี่น้องแน่นอน เพราะเราก็อยู่ในงานนั้นด้วย รับรองว่าแมทไม่ใช่ มือที่สามแน่ ๆ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างแมทกับพี่สงกรานต์ก็ยังดีกันอยู่”

เดี๋ยวก่อน ปราง กัญญ์ณรัณ ตอบปมมือที่ 3 อั้ม-ไฮโซพก

ตอนนี้นักสืบโซเชียลทำงาน กันอย่างมาก หลังมีกระแสข่าวลือหนาหูออกมาว่า “ไฮโซพก ประธานวงศ์” กับนางเอกสาว “อั้ม พัชราภา” ได้เลิกเงียบ ๆ ดังที่มีกระแสข่าวออกไป อย่างล้นหลาม

ถ้าหากเลิกกันธรรมดาก็ว่าไปอย่าง เพราะว่าทั้งสองนับว่าเป็น คู่ที่คนจำนวนไม่น้อยลุ้นให้ลงเอยด้วย การแต่งงาน แต่ว่ามีข่าวเม้าท์ว่า ที่เลิกกันเป็นเพราะว่ามือที่ 3 และก็มือที่ 3 ไม่ใช่คนอื่นไกลเป็นคนภายในแวดวงบันเทิง และที่สำคัญเป็นผู้ที่ทุกคนรู้จัก

จากนั้นมีเพจชื่อดัง ปล่อยอักษรย่อ ออกมาว่าเป็น ป. งานนี้หวยดันไปออก ที่นักแสดงสาว “ปราง กัญญ์ณรัณ” ที่พึ่งจะโสดมาได้ไม่นาน ต่อมามีชาวเน็ต เข้าไปคอมเมนต์ ในไอจีของสาว “ปราง” ว่าขออย่าให้เป็นเรื่องจริง

ต่อมาด้านผู้จัดการสาว “ปราง” ได้เปิดเผยว่า… “ไม่ใช่แน่นอน ทัวร์ไม่ต้องมาลงลูกสาว ซึ่งตนเองได้โทรถามปรางแล้ว ถึงข่าวที่เกิดขึ้น ปรางมิได้ตกใจ ทั้งยังบอกว่ารู้อยู่แล้ว ต้องเจอแบบนี้เลยเฉย ๆ นั่งอ่านคอมเมนต์ผ่าน ๆ และย้ำอีกว่าไม่ใช่ลูกสาวแน่ ๆ”

เป็นข่าวดังกรณีนักแสดงสาว แอล กมลวรรณ สุทินเผือก ขับรถพุ่งชนรถริมถนนเสียหาย หลายคันที่พัทยา ชลบุรี สาเหตุเพราะเกิดอาการวูบ แต่ว่าก็มีเสียงเม้าท์ว่า เป็นด้วยเหตุว่าเมาแล้วขับหรือเปล่า? ปัจจุบันสาว แอล ขอเคลียร์ใน งานประกาศรางวัล ไทยแลนด์ ดิจิทัล อวอร์ด 2022 ครั้งที่ 4 โดยเล่าว่า

“วันนั้นแอลไปพัทยากับคุณแม่ รวมทั้งน้องชายเป็นวันเกิดของคุณน้า ราว 5 ทุ่มกว่า ก็กลับกัน แอลเป็นผู้ขับแล้วจู่ ๆ มันก็รู้สึกวูบไปเลย คือแอลมีอาการวูบบ่อย ๆ แต่ว่าไม่เคยวูบขณะขับรถ คือแอลเป็นความดันต่ำ จะต้องรับประทานยาบำรุงเลือด แต่ว่าปกติเรามีคนขับ แต่ว่าวันนั้นเราต้องการจะไปกันแค่สามคนแม่ลูก มันก็เลยเกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้น มารู้ตัวอีกที มันก็ชนไปแล้ว

หนูก็รีบวิ่งลงไป แล้วก็ไปยกมือไหว้เขา พูดว่าพี่คะ มีใครเป็นอะไรมั้ยคะ มีใครเจ็บมั้ย หนูขอโทษนะคะ ขอโทษพี่วินมอไซค์ ขอโทษเจ้าของร้านข้าวต้ม ขอโทษทุกคนทั้งหมดค่ะ ไม่ได้มีการหลบหนี รวมทั้งทุกคนเขา ก็เป็นพยาน เพราะเหตุว่าพวกพี่วินมอไซค์ ก็พูดออกข่าวไปหมดแล้ว แอลก็พร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง”

แล้วผู้อื่น ทราบมั้ยว่าเป็น แอล กมลวรรณ?

“ไม่รู้ค่ะ เพราะหนูใส่แมสก์ แล้วอีกอย่างคือเราไม่ได้ ต้องการที่จะให้เป็นข่าวอยู่แล้ว หนูไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นข่าวเลย คิดว่ามันจะเป็นอุบัติเหตุ แค่นิดหน่อย ที่เราสามารถจะเคลียร์ได้ เพราะก็ไม่อยากให้คุณพ่อไม่สบายใจ แล้วเราก็อยู่กับแม่ด้วย มันก็น่าจะผ่านไปได้ ในเวย์ของเรา เราสามารถเคลียร์ได้ หลังจากที่หนูไปเคลียร์กับทุกคน เขาก็ไม่มีสีหน้าโมโหนะคะ ทุกคนนิ่ง ๆ ก็คงยังงง กับเรื่องที่เกิด ช็อก ๆ ไม่มีการพูดอะไร และมีพี่ ๆ มาถามว่าเราเป็นอะไรมั้ย ซึ่งแอลก็ยังหัวโนอยู่เลย แต่ก็ไม่มีใคร ที่จะโวยวายขึ้นมาค่ะ”

มีคำถามขึ้นมาว่าเราดื่มหรือไม่?

“ไม่ดื่มค่ะ เพราะว่าภายหลังที่รถชนปุ๊บ แอลก็ไป สน.เลย แล้วแอลมีการอัดคลิปวิดีโอ ขณะที่แอลเป่าแอลกอฮอล์ด้วย และมีหลักฐานอยู่ที่ สภ.พัทยา ในโทรศัพท์ก็ยังมีอยู่ค่ะ คือแอลกอฮอล์เป็นศูนย์เลยค่ะ หนูไม่ได้ดื่มเลย แต่ว่าปกติหนูเป็นคนดื่มนะคะ แต่วันนั้นหนูไม่ได้ดื่มจริง ๆ ค่ะ ยืนยันว่าไม่ได้เมา แล้วขับ และไม่มีใครช่วยคดี

เพราะเหตุว่ามีคอมเมนต์บอกว่าคุณพ่อเป็น ส.ส. ใครช่วยรึเปล่า แอลบอกตรงนี้เลยว่า ทีแรกคุณพ่อยังไม่รู้เลยว่าหนูรถชน คุณพ่อหนูรู้ตอนเช้า จากข่าวพร้อมคนทั้งประเทศ เนื่องจาก เพราะฉะนั้นไม่มีใครช่วยแอลค่ะ และก็สำหรับแอลนะ หากอุบัติเหตุหรือเมาแล้วขับ แอลก็พร้อมรับผิดชอบทุกคน ไม่หนีแน่นอน ค่ะ”

แล้วเรื่องค่าเสียหายล่ะ เรารับผิดชอบอย่างไร?

“เห็นประกันเขาตีค่าเสียหายประมาณ 5 แสน ซึ่งประกันเขารับผิดชอบ หมดทุกอย่างอยู่แล้ว หากมันเกินมาเรา ก็พร้อมรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่เราก็มีดูแลไป ส่วนหนึ่งบ้างค่ะ เรามิได้ปล่อยใครทิ้งขว้าง แล้ววันที่เกิดเหตุ แอลก็หัวโน แขนก็เป็นแผล แต่ว่าแอลคุยกับตำรวจ จนกระทั่งทุกคนได้ใบบันทึกประจำวัน ผู้เสียหายราว ๆ 10 กว่าคน แอลรอส่งทุกคนขึ้น รถกระทั่งหมด กระทั่งทุกคนสุขใจ หนูถึงไปโรงพยาบาล”

คุณพ่อรู้เรื่องแล้วว่าอะไรบ้าง?

“อันดับแรกเลย คือเป็นห่วง แต่ว่าเขารู้ว่าเราไม่ได้เป็นอะไร เราไม่ได้เมา แล้วเราก็อยู่กับคุณแม่ พ่อเขาก็ทราบอยู่แล้วว่า เราไปเที่ยวกันสามคน ด้วยเหตุดังกล่าวก็ไม่มีอะไร ไม่ใช่ว่าแอลไม่แคร์ คนที่อยู่รอบข้างหรือสังคมนะ แต่หนูมิได้ทำอะไรผิดอะคะ หนูก็ยอมรับ และก็รับผิดชอบทุกอย่าง”

วิจารณ์สองมุม แอล ลูก กรุง ศรีวิไล โชว์ผลเป่าแอลกอฮอล์

“แอล กมลวรรณ” ดาราสาวสวย ลูก “กรุง ศรีวิไล” ดาราอาวุโส โชว์ผลเป่าแอลกอฮอล์เป็น 0 ให้เห็นจะจะ โต้หนักไร้คนช่วยเหลือ ชาวเน็ตแห่ไลค์ แล้วก็วิจารณ์อย่างร้อนแรง พร้อมวิจารณ์รัวสองมุม ทั้งยังให้กำลังใจ รวมทั้งแซะเรื่องการพักผ่อน ก่อนขับรถ

จัดเป็นอีกหนึ่ง ประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ ที่หลาย ๆ คนสนใจอย่างมากมาย สำหรับเรื่องราว ของ แอล กมลวรรณ บุตรสาวของดาราอาวุโสคนดัง กรุง ศรีวิไล ที่เกิดอุบัติเหตุขับรถชนรถจักรยานยนต์จำนวน 8 คัน ซึ่งทำให้หลายคนวิจารณ์อย่างหนักว่า เธอเมาแล้วขับและอื่น ๆ ไหม

ดาราสาวดีกรีลูก ส.ส.ดัง ซิ่งอัลพาร์ดพุ่งเข้าชนรถหน้าร้านข้าวต้มพัง

ปัจจุบันในอินสตาแกรมของสาวแอล มีการอัพเดทรูป ของผลของการตรวจแอลกอฮอล์ รวมทั้งข้อความว่า “ขออนุญาตชี้แจงประเด็น แอลเกิดอุบัติเหตุเมื่อคืนนี้ เพราะเวลานี้ได้เป็นประเด็นไปต่าง ๆ นานา เรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แอลขออธิบายในพื้นที่ตรงนี้นะคะ

เมื่อคืนได้เดินทางมาพัทยากับคุณแม่ แล้วก็น้องชายแล้วขากลับ จากงานวันเกิดคุณน้า แอล(ผู้ขับ) กำลังขับกลับโรงแรมที่พัก จู่ ๆก็เกิดอาการ วูบ คล้ายภาพตัด (เป็นอยู่เป็นประจำ) รู้ตัวอีกทีก็คือรถยนต์ ได้พุ่งชนกับรถ ที่จอดอยู่ข้างทาง แล้วก็กระเด็นเข้าไปในร้านข้าวต้ม และก็รถยนต์ที่จอดอยู่ รวมแล้ว 9 คน ทั้งเก๋งแล้วก็จักรยานยนต์ พอรู้สึกตัวก็รีบเดินลงไป สอบถามหาคนเจ็บในทันที

โดยเหตุการณ์นี้ ไม่มีคนที่ได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นได้เดินทางไป สภ.พัทยา ได้ โดยให้ความรวมมืออย่างดี สำหรับการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ซึ่ง ผลเป็น “0” ไม่มีการดื่มใด ๆ และไม่ได้มีใคร ช่วยเหลือในด้านไหนเลย ตามที่คน comment กัน”

The Banshees of Inisherin แม้ว่าจะไม่มีโอกาส ได้ชมหนังเรื่องนี้ในโรงหนัง แต่เพราะความเจ๋ง รวมทั้งเยี่ยมยอดของหนัง ที่เปลี่ยนเป็นดาวโดดเด่น

แค่ข้ามคืน กับการขึ้นแท่น เป็นหนังหวังรางวัล แถวหน้าของปีนี้ ที่สร้างความโดดเด่นบนเวทีต่าง ๆ เพิ่งเข้าชิงลูกโลกทองคำมากที่สุด แล้วก็มีโอกาสไปได้ไกล ถึงออสการ์ แล้วก็นี่เป็น The Banshees of Inisherin หนังดราม่าตลกร้ายจากอังกฤษ ที่กำลังแผงฤทธิ์ ความยอดเยี่ยมใส่ชาวโลก ให้เหลียวหันมาสนใจ หนังเล็ก ๆ เรื่องนี้เป็นว่าเล่น

The Banshees of Inisherin เป็นเรื่องราวความมิตรภาพ อันยาวนาน

ระหว่าง พาด์เร็ค กับ คอล์ม บนเกาะไอนิเชอริน ที่อยู่ ๆ ความเป็นเพื่อนของเขา กำลังสั่นคลอนและสู่ภาวะวิกฤต เมื่อพบว่า คอล์มมีท่าทีที่เปลี่ยนไป พร้อมด้วยอยากยุติมิตรภาพระหว่างกัน

ระหว่างที่พาด์เร็คได้แต่ว่ารู้สึกสับสนว่าเกิดอะไรขึ้น
โดยที่คนรอบข้างเขา ไม่ว่าจะเป็น น้องสาวหรือเด็กตัวปัญหา ของหมู่บ้าน จะช่วยเป็นกาวใจและช่วยซ่อมมิตรภาพ ของพวกเขาให้ แต่ว่าดูท่ามันกำลัง นำพาไปสู่เหตุการณ์ ที่ไม่คาดคิดมากยิ่งขึ้น

นี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับ “มาร์ติน แมคโดนา” จากหนังรางวัลออสการ์ Three Billboards Outside Ebbing, Missouri ที่ถือเป็นการสั่งสม ประสบการณ์สำหรับในการปลุกปั้น โครงการหนังเรื่องนี้ถึง 5 ปี

ทั้งกำกับและเขียนบทหนัง เรื่องนี้ด้วยตัวเอง ถือได้ว่าเป็นการคัมแบ็กที่น่าประทับใจ แล้วก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ที่คาดหมายเอาไว้ด้วยซ้ำ เนื่องจากว่านี่เป็นหนัง ที่เต็มไปด้วยการ สำรวจแนวจิตของผู้คน

สิ่งที่ประทับใจ ที่สุดของ The Banshees of Inisherin ที่จะต้องยกนิ้วให้เลย ก็คือบทหนัง ที่แสนคมคายแล้วก็ตลกร้ายของมาร์ติน แมคโดนา เนื่องจากว่าบทหนัง เต็มไปด้วยชั้นเชิง และความตื้นลึก หนาบางในองค์ประกอบเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการดีไซน์คาแรกเตอร์ ตัวละครนั้น ถือว่าสร้างมิติได้ดีมาก ทุกตัวละครหลัก ในเรื่องนี้เต็มไปด้วย ซอกมุมที่น่าค้นหา และคล้อยตาม เพลินดีไปตลอด ทั้งเรื่อง

โดยเฉพาะอย่างคาแรกเตอร์หลัก ๆ

ของ “คอลิน ฟาร์เรลล์” กับ “เบรนเดน กลีสัน” ที่สร้างออกมา ได้น่าประทับใจเป็นอย่างดี รวมทั้งได้เรื่องการแสดง อันเป็นมืออาชีพของพวกเขา ก็ช่วยผสมผสาน และก็ส่งเสริมความดี ของบทหนังให้ได้ดีเพิ่มขึ้น เข้าไปอีก หนังเรื่องนี้มีบทหนัง ที่เป็นเหมือนพระเอก ที่โดดเด่นรวมทั้งยอดเยี่ยม เป็นบทหนังที่ไม่ได้ มีความซับซ้อนอะไรนัก เรียบง่ายแล้วก็เต็มไป ด้วยความคมคาย อันเป็นเอกลักษณ์ดี

เชื่อว่าบทหนังของ The Banshees of Inisherin นั้น ต้องมีบทบาทสำคัญ บนเวทีรางวัลต่าง ๆ ในช่วงต้นปีอย่างแน่นอน และหากว่าประสบผลสำเร็จสุด ๆ ก็มั่นใจว่าหนังคงจะ เหมาะสมที่จะคว้ารางวัล มาครองได้สำเร็จเลยทีเดียว นับว่าเป็นอีกหนึ่งงาน มาสเตอร์พีช ของผู้กำกับรายนี้ ที่สร้างสรรค์ผลงานเขียน ออกมาได้น่าจดจำอย่างดีเยี่ยม แม้ว่าจะเป็นเพียง หนังไอริชเรื่องเล็ก ๆ แค่นั้น

งานสร้างของ หนังเรื่องนี้ก็ค่อนข้างจะน่าพอใจ องค์ประกอบโปรดักชั่นดีไซน์

นับว่าใช้ได้ มุมกล้องแล้วก็การถ่ายรูปร้อยเรียงออกมา เป็นหนังเรื่องนี้ จัดว่าทำได้ดี สร้างบรรยากาศ ด้วยภาพรวมทั้งแสงธรรมชาติ ให้กระตุ้นเค้าเรื่องของหนังออกมา ได้อย่างเห็นได้ชัดยิ่งขึ้น เก็บเนื้อหาเกี่ยวกับ ยุคสมัยได้ค่อนข้างจะน่าพอใจด้วย และก็วัฒนธรรมท้องถิ่น ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ที่ทำได้ดี

แล้วก็นอกจากการแสดงอันน่าเชยชมของ คอลิน ฟาร์เรลล์ กับ เบรนเดน กลีสัน ที่น่าจะต้องเฉิดฉาย บนเวทีรางวัลแล้ว ยังมี “เคอรี่ คอนดอน” กับ “แบร์รี่ คีโอแกน” ก็ถือว่ามอบการแสดง ที่สุดยอดด้วยความเป็นมืออาชีพ ของพวกเขาเองด้วยเหมือนกัน การแสดงอัน เป็นธรรมชาติแล้วก็เข้าถึงบทได้เป็นอย่างดี ถือว่าเป็นอีก 2 ผู้ที่ช่วยส่งเสริม ความสมบูรณ์แบบ ให้กับหนังเรื่องนี้ได้ดี

ยังมีอีกส่วนประกอบ ที่ไม่กล่าวถึงคงมิได้ ก็คือแคสติ้งนักแสดง สรรพสัตว์ น่าแปลกใจมากที่หนังเรื่องนี้ มีเหล่าสัตว์ที่มอบ แอคติ้งออกมาได้ชวนน่าทึ่ง สัตว์ทุกตัว ที่เห็นอยู่ในหนังเรื่องนี้ แสดงดีเยี่ยม โดยเฉพาะเจ้าลากับน้องหมา ที่เป็นองค์ประกอบเสริมการแสดง ที่บันเทิงเป็นอย่างดี ไหนจะมีน้องม้า หรือแม้กระทั่งนกนางนวล สัตว์ทุก ๆ ในหนังเรื่องนี้ คือน่าทึ่งอย่างดีเยี่ยม

หนึ่งในสิ่งที่ The Banshees of Inisherin เป็นหนังที่ทำให้รู้สึกเซอร์ไพรส์ ผู้ชมได้เป็นอย่างดี เป็นการเล่าเรื่อง และบทหนัง ที่เกือบจะคาดเดาไม่ได้เลย ได้ผลลัพธ์การเรื่องราว ที่ทำให้คนดูเอ็นจอย และตลกลึก ๆ ให้กับรอยร้าว ในความสัมพันธ์ มิตรภาพของมนุษย์ ทั้งสองผู้ที่ ผู้ชมเอง ก็ไม่เข้าใจด้วยเหมือนกันว่า

เป็นเพราะอะไรกันแน่ แต่ทุกอย่างค่อย ๆ ปลดล็อกออกมา ทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งส่งผลให้เกิดบทสรุป

ด้วยเหตุดังกล่าวโดยสรุปแล้ว ไม่ประหลาดใจเลยว่า The Banshees of Inisherin ได้แซงหน้าขึ้น มาเป็นหนังยอดเยี่ยม ที่น่าประทับใจในรอบปีนี้ ในตอนโค้งสุดท้าย หนังที่เต็มไปด้วยส่วนประกอบแจ่ม ๆ เต็มไปด้วยคุณภาพ งานสร้างดี บทหนังเยี่ยมยอด

แล้วก็ยังมีการแสดง ที่น่าเชยชม ของทีมนักแสดง ที่ให้ผลลัพธ์ออกมา ได้อย่างคาดไม่ถึง ต้องจับตามองให้ดี ๆ หนังเรื่องนี้ น่าจะมาแรงอีกเรื่อง ในฤดูล่ารางวัลปีนี้

หลังจากที่ออกมา ประกาศผ่านสื่อว่า ขอก้าวข้ามเฟรนโซน สำหรับพระเอกหนุ่ม นาย ณภัทร เสียงสมบุญ โดยมีความรู้สึกดี ๆ ที่มากเกินกว่าเพื่อน มอบให้นางเอกสาว ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ก็ดูอย่างกับว่าหนทางความรักคราวนี้

จะไปได้ดี ทั้งยังฝ่ายหญิง ก็เปิดโอกาสให้ทำความรู้จัก แล้วก็ไปไหนมาไหน ด้วยกันมากขึ้น จนกระทั่งทำเอาแฟน ๆ แอบฟินในความน่ารัก ของคู่นี้ไปตาม ๆ กัน

ล่าสุด นาย ณภัทรได้ออกมาอัปเดต ให้ฟังอีกครั้ง ขณะเดินทางมาร่วมงาน KING POWER MAHANAKHON GRAND OPENING… THE MAHANAKHON OF LIVES โดยเจ้าตัวเผย แบบเขิน ๆ ว่าในตอนนี้กำลังทำคะแนนอยู่ ฝ่ายหญิงได้กระซิบบอก ความรู้สึกแล้ว ส่วนคำตอบเป็นยังไง ขอเก็บไว้เป็น ความทรงจำของตนเองดีกว่า

นาย ณภัทร เดทที่เยาวราชเป็นไงบ้าง ?

” ขนมปังอร่อยครับ ก็อยากกินเลยไป ผมเป็นคนชอบกินอยู่แล้ว ผมเป็นคนชวน เขาไปเองครับ ที่ไปที่นี่ เพราะว่ามีความรู้สึกว่ามันดี ได้ใช้ชีวิตปกติดี มันเป็นอะไรเล็ก ๆ ที่ผมรู้สึกว่าทั่วไปได้ทำกัน ก็ไม่ได้อยากพลาดโอกาส ที่ผมเคยให้สัมภาษณ์ ไปก่อนหน้านี้ ดีใจครับ ”

คิดไหมว่าไปถึงแล้วคนจะแตกฮือ ถ่ายคลิปลงโซเชียลเยอะแยะ ?

” ตอนที่เราอยู่ที่ตรงนั้น รู้สึกว่าทุกคนน่ารักมาก ๆ เลย ให้พื้นที่พวกเรามากเลย ซึ่งถ่ายได้นะ ไม่ได้ห้าม แต่อย่าเรียกไปถ่าย เขิน (ยิ้ม) ผมว่าให้ปล่อยไปตามธรรมชาติ และก็ทุกคนในวันนั้น ที่เจอก็น่ารักมากเลย คอยมาพูดส่งกำลังใจให้ ”

” ผมไปกันแบบปกติ ใช้ชีวิตธรรมดา ไม่ได้คิดอะไรเยอะเลย เพียงต้องการหาอะไรกิน นั่งรถเล่น ”

นับว่าเป็นเดทแรก อย่างที่ทุกคนเข้าใจไหม ?

” (พยักหน้าและอมยิ้ม) ก็ดีครับ แฮปปี้ คงจะเขินทั้งคู่นะ ”

จากความเป็นเพื่อนแล้ว มาเปลี่ยนสถานะแบบนี้ เกร็งมากขึ้นไหม ?

” ไม่เกร็งนะ ก็รู้สึกธรรมดา ๆ สบาย ๆ รู้สึกว่าเป็นตัวเรา และก็เป็นตัวเขาเอง คงจะดีที่สุดครับ ”

ใบเฟิร์น บอกจะมาบอกเราเองเรื่องความรู้สึก สรุปเขายอมเปิดใจให้หรือยัง ?

” เขาก็มากระซิบผมครับ แต่ว่าผมก็แบบ… อะไรนะ ไม่ได้ยิน (ยิ้ม) กระซิบว่า… ขอเก็บไว้เป็นความทรงจำของตัวเองดีกว่าครับ ”

แต่เป็นคำพูดที่ฟังแล้วชื่นใจ ดีต่อใจของเราใช่ไหม ?

” (พยักหน้ายิ้ม) ”

ในเวลานี้ใช้สถานะว่าแฟนหรือยัง ?

” กำลังทำคะแนนอยู่ครับ ก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ว่าลองไปถามเขาดูนะว่า ให้คะแนนเท่าไหร่”

ถามถึงเรื่องที่ไปปลูกต้นไม้บ้านใบเฟิร์น หลายคนแซว ไม่ได้ปลูกต้นไม้ แต่ว่าเป็นการปลูกต้นรัก ?

” (หัวเราะเขิน) มันเป็นความภาคภูมิใจของตัวเขาครับ และก็เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม เพราะว่าเขาทำงานมาหนักมาก ๆ และเป็นน้ำพักน้ำแรงของเขา เราก็อยากไปเก็บบรรยากาศให้เขา ”

อันนี้ต้นไม้ต้นอะไร ต้นรักไหม ?

” ถามเขาเอง ๆ (แต่ปลูกด้วยใจใช่ไหม?) เขาน่าจะปลูกด้วยใจ ส่วนตัวเรา ก็จำไม่ได้แล้วว่าไปช่วยทำอะไรบ้าง หลัก ๆ ก็ไปแสดงความยินดีกับเขาครับ ”

เราเองก็ทำบ้านด้วย มีปรึกษา ให้คำแนะนำอะไรกันไหม ?

” จริง ๆ มีอะไรก็คุยกันตลอดเวลา เขาชอบส่งรูปมาอวดนานแล้ว ของเขาน่าจะเสร็จก่อนนะครับ ”

เฮอีกแล้ว นาย – ใบเฟิร์น เกี่ยวก้อยเดินชิลเยาวราช หวานทั้งถนน

นาย ณภัทรเกี่ยวก้อย ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก เช็คอินเยาวราช หวานกว่าอาหาร ก็โมเมนต์ฟีลแฟนของทั้งคู่นั่นเอง หลังจากที่ประกาศข้ามเส้นความเป็นเพื่อน สิ้นสุดเฟรนด์โซน กันไปที่เรียบร้อย สำหรับคู่ของพระเอกสุดหล่อ นาย ณภัทรกับนางเอกคู่จิ้น ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ทั้งคู่ก็ถูกเพื่อน ๆ พี่ ๆ ในวงการแซวกันแบบน่ารัก เรียกว่าออกอาการเขิน ๆ กันเลยทีเดียว

นอกจากจะได้เห็นอาการเขินแล้ว แฟนคลับ ยังได้กรี๊ดหนักมากอีกครั้ง เมื่อได้เห็นภาพของ นาย เกี่ยวก้อยควง ใบเฟิร์น เช็คอินที่เยาวราชเดินชิล ๆ หาของอร่อย ๆ กินกันอย่างมุ้งมิ้ง มีภาพออกมาให้เห็น หลายโมเมนต์เลยทีเดียว เรียกว่าถนนเยาวราช ทั้งเส้นกลายเป็นสีชมพู เต็มไปด้วยความหวาน ของทั้งคู่

“แม่หมู” ฟินลูกชายโดน “แอน ทองประสม” แซวหล่อขึ้น คำตอบทำเขินหนักมาก

“แม่หมู” ฟินลูกชาย โดนผู้จัด “แอน ทองประสม” แซวเดี๋ยวนี้หล่อขึ้น คำตอบพระเอกหนุ่ม ทำเอาเขินหนักมาก ภายหลังทำให้แฟนคลับ เฮกันลั่นทั้งบ้านทั้งเมือง สำหรับพระเอกหนุ่ม นายณภัทร กับนางเอกคู่จิ้น ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ที่เพิ่งจะจับมือ ประกาศสิ้นสุดทางเพื่อน เปลี่ยนสถานะเป็นคนรู้ใจ ก็เริ่มมีภาพทั้งคู่ ชวนกันไปไหนมาไหน อย่างเปิดเผย

ล่าสุดในอินสตาแกรมของ แม่หมู พิมพ์ผกา ได้โพสต์คลิปลูกชายนั่งยิ้มเขิน โดนผู้จัดละคร แอน ทองประสม อัดคลิปแซวทำไมเดี๋ยวนี้หล่อขึ้น ดูผอมหน้ายาว โดยพระเอกหนุ่ม ยิ้มหน้าบานตอบกลับ “ช่วงนี้มีความสุขมั้ง”

ซึ่งแม่หมูได้ระบุแคปชั่น ใต้คลิปดังกล่าวด้วยว่า “ขอบคุณ คลิปจากพี่แอนด์ ทองม้วน @annethong …. จากกองละคร #แค้น #แอนทองประสม #naphat_nine #นายณภัทร #นายใบเฟิร์น”

งานนี้นอกจากพี่แอนจะทำให้แฟนคลับ ได้ยิ้มเขินตามกันแล้ว คุณแม่หมูเองก็ฟิน กับความรักคราวนี้ของลูกชาย พร้อมเปิดทางให้ผ่านฉลุย แถมยังคอยเป็นกองเชียร์ คนสำคัญอีกด้วย

หนุ่ม กรรชัย แคปชั่นเฉียบ หลังช่วยเปิดทางให้ นาย ณภัทร -ใบเฟิร์น ได้ขยับสถานะ

“หนุ่ม กรรชัย” โพสต์แคปชั่นเฉียบ หลังช่วยเปิดให้ “นาย ณภัทร-ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก” ได้ขยับสถานะมากกว่าเพื่อน ยืนยันความสัมพันธ์ สิ้นสุดทางเพื่อนกันทั้งคู่แล้ว สำหรับนางเอกสาว ใบ เฟิร์นพิมพ์ชนก หลังเปิดใจ ให้พระเอกหนุ่ม นาย ณภัทรเดินหน้าจีบได้เต็มกำลัง ซึ่งเจ้าตัวสารภาพรู้สึกเขินมาก ที่ฝ่ายชายออกมา รับสารภาพรักต่อหน้าสื่อ แถมยังพูดขอบคุณ หนุ่ม กรรชัย ด้วยที่เป็นผู้เปิดทาง ทำให้พระเอกหนุ่ม กล้าโทรมาบอกความในใจ

ด้านพิธีกรดัง หนุ่ม กรรชัย ในฐานะผู้เปิดทาง ให้น้องชายคนสนิท ได้โพสต์รูปคู่กับพระเอกน้องรัก พร้อมแคปชั่นว่า “เส้นทางอ่ะถามได้ แต่จุดหมายต้องไปให้ถึงเอง #PPD #NB” งานนี้แฟนคลับ ต่างเข้ามากดไลค์ให้รัว ๆ แล้วก็คอมเมนต์แซวพิธีกร คนดังกันมากมาย

จากกรณีดาราสาว แอล กมลวรรณ สุทินเผือก บุตรสาวอดีตดาราดัง กรุง ศรีวิไล หรือ กรุงศรีวิไล สุทินเผือก ซึ่งปัจจุบันนี้เป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ขับขี่รถตู้แล้วก็เกิดเสียหลัก พุ่งชนรถจักรยานยนต์ แล้วก็รถยนต์ที่จอดอยู่ข้างทางเสียหาย 9 คัน

แต่ไร้คนบาดเจ็บ โดยเหตุดังกล่าว เกิดขึ้นที่หน้าร้านข้าวต้ม ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี คืนวันที่ 11 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบแอลกอฮอล์ รวมทั้งกลายเป็นประเด็น ร้อนในโลกโซเชียล

ล่าสุด แอล กมลวรรณ โพสต์ภาพผลตรวจ แอลกอฮอล์ที่ออกมาเป็น 0

ภาพจุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งเขียนใจความ อธิบายปมขับรถชน รวมทั้งเรื่องผลตรวจแอลกอฮอล์ โดยบอกว่า “ ขออนุญาตชี้แจ้งประเด็น แอลเกิดอุบัติเหตุเมื่อคืนนี้ เนื่องมาจากตอนนี้ได้เป็นประเด็นไปต่าง ๆ นานา เรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แอลขอชี้แจ้ง ในพื้นที่ตรงนี้นะคะ

เมื่อคืนได้เดินทาง มาพัทยากับคุณแม่ แล้วก็น้องชายแล้วขากลับ จากงานวันเกิดคุณน้า แอล (ผู้ขับ) กำลังขับกลับโรงแรมบ้านพัก อยู่ดี ๆ ก็เกิดอาการ วูบ คล้ายภาพตัด (เป็นอยู่บ่อย ๆ) รู้ตัวอีกทีก็คือรถ ได้พุ่งชนกับรถ ที่จอดอยู่ริมทาง รวมทั้งกระเด็นเข้า ไปในร้านข้าวต้ม แล้วก็รถยนต์ที่จอดอยู่ รวมแล้ว 9 คน ทั้งเก๋งรวมทั้งมอเตอร์ไซค์ พอรู้สึกตัว ก็รีบเดินลงไปถามหา คนบาดเจ็บในทันที โดยเหตุการณ์นี้ ไม่มีผู้บาดเจ็บ

หลังจากนั้นได้เดินทางไป สภ.พัทยา ได้ โดยให้ความรวมมืออย่างดี สำหรับในการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ซึ่ง ผลเป็น “0” ไม่มีการดื่มใด ๆ และไม่ได้มีใครช่วยเหลือ ในด้านไหนเลยตามที่คน comment กัน และหลังจากนั้นก็ได้ แสดงความรับผิดชอบ กับผู้เสียหายทุกคนด้วยความจริงใจ รวมทั้งรับผิดชอบ โดยตรงนี้ขอให้เป็นหน้าที่ของประกันถัดไป

ในตอนนี้แอลแล้วก็คุณแม่ ปลอดภัยนะคะ ต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วย ที่ทำให้ทุก ๆ คนเป็นห่วง

#ต้องขอโทษพี่ ๆ นักข่าวด้วยที่ ไม่ได้รับโทรศัพท์หนูขอชี้แจงตามนี้นะคะ นี้คือข้อเท็จจริงที่สุดค่ะ
#อุบัติเหตุเกิดได้ทุกเวลา

อย่างน้อยเหตุการณ์นี้ ก็ทำให้เราทราบว่าใครบ้าง ที่รักรวมทั้งเป็นห่วงเราจริง ๆ #ปกติแอลมีคนขับนะคะ แต่เห็นว่าใกล้ไม่ไกล เลยขับเองดูแลคุณแม่ค่ะ ”

ดาราสาว “แอล กมลวรรณ” ไม่เมา กินเหล้าไม่เป็น แม่ยืนยัน ตกใจเสียงกรี๊ด

แม่ ดาราสาว “แอล กมลวรรณ” ยันบุตรสาวไม่เมา กินเหล้าไม่เป็น แต่ไปงานเลี้ยงสังสรรค์จริง รับตกใจเสียงกรี๊ด ประตูรถเปิดเอง ก่อนที่จะเสียหลักชนรถ จอดข้างทางพังยับนับ 10 คัน

จากกรณี ดาราสาว แอล กมลวรรณ สุทินเผือก อายุ 34 ปี บุตรสาว กรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ขับขี่รถตู้อัลพาร์ด สีขาว ทะเบียน สว 77 กทม. เสียหลักพุ่งชน รถจักรยานยนต์รวมทั้งรถยนต์ ที่จอดอยู่ข้างทาง เสียหายรวม 8 คัน โชคดีไร้คนเจ็บ เหตุเกิดหน้าร้านข้าวต้มกุ๊ย 5 บาท ริมถนนพัทยากลางสาย 3 หมู่ 9 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

เมื่อเวลาดึกที่ผ่านมา วันที่ 11 ธันวาคม จากที่มีข่าว เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ร.ต.อ.หญิง ขวัญข้าว อินาวัง รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา ได้เรียก บริษัทประกันภัยชั้น 1 ของรถยนต์ อัลพาร์ด ของดาราสาว แล้วก็ ผู้เสียหายทั้งหมด 9 ราย

มี รถยนต์ 3 คัน แล้วก็รถจักรยานยนต์ 6 คัน เพื่อมาตกลงชดใช้ ค่าเสียหาย เบื้องต้นทางประกันแจ้งว่า จากการประเมิน ค่าความเสียหาย ทั้งหมด มูลค่าโดยประมาณ 500,000 บาท โดยถ้าเกิดค่าเสียหายเกินวงเงิน ของบริษัทประกันภัย ก็คงจะต้อง เรียกคนขับมาคุยตกลงชดใช้ ค่าเสียหายส่วนที่เหลือ กับกลุ่มผู้เสียหายต่อไป

นายพงษ์ศักดิ์ มาจาด อายุ 33 ปี วินจยย.รับจ้าง หนึ่งในกลุ่มผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้ ขับขี่รถจักรยานยนต์ มาซื้อกับข้าว ที่ร้านข้าวต้ม ระหว่างที่กำลังนั่งคอยอาหาร จู่ ๆ รถตู้ อัลพาร์ด ได้พุ่งเสียหลัก เข้ามากวาดรถยนต์ แล้วก็รถจยย.ได้รับความเสียหาย นับ 10 คัน

หลังจากนั้นได้เห็น น้องแอล ดาราสาว ซึ่งเป็นคนขับ พร้อมทั้งคุณแม่ ที่นั่งโดยสารมา รีบลงมาจากตัวรถตู้ ซักถามผู้เสียหาย ด้วยความเป็นห่วง โดยที่ตัวบุตรสาว แล้วก็ครอบครัว ก็ยกมือขึ้นไหว้ขอโทษ กลุ่มผู้เสียหาย พร้อมทั้งยินดีชดใช้ ค่าเสียหายทุกอย่าง แล้วก็ยืนยันว่าน้องแอล ดาราสาว มิได้เมาแล้วขับ จากที่สังคมสงสัย

ตอนที่ นางพรรณวิภา สุทินเผือก อายุ 59 ปี คุณแม่ น้องแอล ดาราสาว เปิดเผยด้วยว่า วันเกิดเหตุได้ชักชวนน้องแอล บุตรสาว รวมทั้งลูกชาย มาสังสรรค์งานวันเกิด เพื่อนสนิท ที่เมืองพัทยา โดยยืนยันว่า น้องแอล ไม่มีการกินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ด้วยเหตุว่าตัวน้องแอล ดื่มสุราไม่เป็น ภายในงานปรากฏว่า เพื่อนมีอาการเมาสุราอย่างมาก จึงพาเพื่อนไปส่งที่ที่พัก ภายในซอยบงกช พัทยาใต้ โดยมี น้องแอล เป็นคนขับ รวมทั้งมีลูกชาย พร้อมทั้งเพื่อน ขับตามหลังมาด้วย

ระหว่างเดินทางกลับโรงแรมบ้านพัก รวมทั้งมาถึงจุดเกิดเหตุ ปรากฏว่า เห็นประตูรถตู้ฝั่งขวา หลังคนขับ ที่ปิดไม่สนิทเกิดเปิดเอง โดยคาดว่าจะปิดไม่สนิท ด้วยความตกใจ จึงร้องตะโกนลั่น ทำให้ตัวน้องแอล ตกใจไปด้วย เป็นเหตุให้รถเสียหลัก พุ่งชนรถจอดริมทาง ได้รับความเสียหายหลายคัน

แล้วก็นับว่าเป็นเหตุการณ์ ที่โชคดีสุด ๆ ที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หรือเป็นอันตราย หลังเกิดเหตุ คุณพ่อ กรุงศรีวิไล ได้โทรศัพท์มาสอบถาม ด้วยความเป็นห่วง ตอนที่ตัว น้องแอล ยังอยู่ในอาการตกใจ.

ได้มาเจอกับ Blue Again หนังไทย ที่มีความยาว ของเรื่องราว เทียบชั้นกับหนัง Avatar ภาคใหม่ที่จะเข้าโรงฉาย หนังนอกกระแส ที่มีความยาวถึง 3 ชั่วโมงนิด ๆ อัดแน่นด้วยปมดราม่า จัดจ้านที่ทะลวงลึก นี่เป็น “Blue Again” หนังไทยฟอร์มเล็ก ๆ

ที่ถูกรับเลือกให้ เข้าสายประกวด ในเทศกาลหนังปูซานของปีนี้ ที่นำพาลีลาธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาออกมา ร้อยเรียงเป็น เรื่องราวชีวิต ในรั้ววิทยาลัย ได้อย่างบาดลึก จนทำให้เรา ต้องการจะยกให้เป็น หนังไทยเรื่องที่ยอดเยี่ยมในปี 2565 นี้ไปเลย

Blue Again คือเรื่องราวบนโลก ที่ไม่ได้ใจดี กับเราเท่าไหร่

ของ เอ หญิงสาว ลูกครึ่งอีสาน-ตะวันตก ดิ้นรนเข้ามาเรียน ออกแบบแฟชั่น ในจ.กรุงเทพฯ โดยหวังว่า จะสามารถช่วยชีวิต โรงย้อมครามของครอบครัว ที่กำลังจะตายลงไปได้ เธอได้เจอกับ แพร เพื่อนสนิทคนแรก ในมหาวิทยาลัยถูกดึงดูด เข้ามาอยู่ในวงโคจรของเธอ ด้วยต้นทุน ทางด้านสังคมและก็ความฝัน ที่คล้ายกัน

ในระหว่างที่ เอพยายามปกป้อง ความฝันของตัวเอง ไปพร้อม ๆ กับถักทอความสัมพันธ์ กับคนที่อยู่รอบข้างเอาไว้ แต่ก็เหมือน เส้นด้ายจะขาดลง เป็นจังหวะที่ สุเมธ เพื่อนรักคนเดียว ในวัยเด็กผู้เป็นเซฟโซน ก็ได้กลับมาในวงโคจร ของเธออีกรอบ ในค่ำคืนวันคริสต์มาส ตามสัญญา แต่มันยิ่งกลับ ทำให้เอตั้งคำถาม กับตัวเองว่า ” บนโลกนี้…ที่ตรงไหนเป็นที่ของเธอจริง ๆ บ้าง ”

นี่เป็นผลงานสร้างหนัง เรื่องแรกของ นักทำหนังหน้าใหม่ “ฐาปณี หลูสุวรรณ” ที่จัดว่าประสบผลสำเร็จด้วยดี ตั้งแต่ออกสตาร์ทในทางนี้ อันที่จริงหนังเรื่องนี้ เป็นการต่อยอด มาจากหนังที่เธอ ทำส่งเป็นธีสิสโปรเจกต์ สำเร็จการศึกษาของตัวเอง ก่อนนำมาพัฒนาสร้างเป็นหนัง เรื่องยาวที่อัดแน่น ไปด้วยทุกอณูที่รายละเอียด ในแบบที่เธอต้องการจะเล่า พร้อมทั้งทำหน้าเขียนบทเอง อำนวยการสร้างเอง และก็ยังดูแล หลายส่วนตัวเองด้วย

เชื่อว่าหลายคน เห็นความยาวของหนัง ที่มากถึง 190 นาที อาจต้องตกใจ อย่างแน่นอน เพราะเหตุว่ามันเป็น 3 ชั่วโมง ที่คุณต้องนั่งจดจ่ออยู่แต่ ในโรงหนัง กับอิริยาบถนั่งเดิม ๆ ที่อาจเป็นแผลกดทับได้

แต่พอได้ไปสัมผัส และก็พิสูจน์ ด้วยตาตัวเองแล้วนั้น กับพบว่า Blue Again สามารถประคับประคองความยาวเหยียดของหนัง เอาไว้ได้อยู่หมัด เป็นหนัง 3 ชั่วโมง ที่แทบไม่มีจุดไหน ละสายตาและจังหวะ ที่เบื่อหน่าย เลยสักช็อตเดียว

ถึงแม้ส่วนประกอบงานสร้างของ Blue Again จะยังไม่ได้ดิบดีอะไร เป็นเพียงการยกระดับ มาตรฐานขึ้นมา จากหนังนักศึกษา ไปอีกขั้นหนึ่งแค่นั้น นี่เป็นหนังอิสระ ที่ไม่มีนายทุนใด ๆ มาช่วยซัพพอร์ต

แต่สิ่งที่หนัง ถ่ายทอดออกมาทั้งหมดนั้น เต็มไปด้วยความหมาย ที่คมคาย ร้อยเรียงเรื่องราว ออกมาได้มีจังหวะและก็เชิงชั้น ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ก็เลยเป็นหนังเรื่องยาวมาก ๆ ซึ่งสามารถสะกดสายตา คนดูได้เอาไว้ แม้กระทั่งปวดเข้าห้องน้ำ ก็ไม่อยากจะลุกไปเข้า เพราะเหตุว่ากลัวจะพลาดดู ไม่ครบทุกซีน

ทั้งหนังยังมี การใส่รายละเอียดเล็ก ๆน้อย ๆ แต่เรียบง่ายซ่อน เอาไว้ในหนังอยู่เรื่อย ๆ

โดยเฉพาะอย่างสิ่งของ และก็ลูกเล่น เรื่องสีต่าง ๆ นี่เป็นหนังอีกเรื่อง ที่เห็นได้ชัดว่า ใช้โทนสีต่าง ๆ มาเป็นตัวแทน ของคาแรกเตอร์ตัวละครนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นนางเอก ที่มีโทนสีฟ้าเป็น ตัวแทนตามชื่อเรื่อง ขณะที่มิตรภาพรอบตัวเธอนั้น มีทั้งสีเหลืองหรือสีส้ม ที่ถูกนำมาใช้ ซึ่งเป็นโทนสีที่ค่อนข้างตัดกับสีฟ้า แต่เมื่อมาอยู่ด้วยกันแล้วนั้น มันเป็นสีที่ช่วยส่งเสริมกันและกัน ได้อย่างน่าแปลกใจ

แน่ ๆ ว่า เนื่องจาก BlueAgain เป็นหนังอิสระ เราก็เลยแทบ ไม่รู้จักนักแสดงในเรื่องเลย พวกเขาเป็นเพียงแค่นักแสดงโนเนม ที่ยังไม่มีชื่อเสียงใด ๆ แต่นั่นก็ถือว่าเป็นจุดเด่น และก็ข้อดีของหนัง เพราะเหตุว่าพวกเขาสามารถ ช่วยกันประคองหนัง เอาไว้แบบเป็นทีม

อาจจะยังไม่ใช่การแสดง ที่ดีระดับสมบูรณ์แบบ แต่แอคติ้งและก็อินเนอร์ของพวกเขา เป็นความสดใหม่และก็น่าค้นหา โดยเฉพาะอย่าง “ตะวัน จริยาพรรุ่ง” ที่ถ่ายทอดอารมณ์ ออกมาได้ชัดเจน ด้วยท่าทีต่าง ๆ แม้จะไม่ต้องพูด บทเลยก็ตาม

แต่ดีเด็ดและก็ไฮไลต์ของจริง ของ BlueAgain ก็คือบทหนัง บทหนังที่ผู้กำกับ เป็นคนลงมือแต่งด้วยตัวเอง อาจจะยกได้ว่า เป็นบทหนังไทย ที่ดีที่สุดในรอบ ทศวรรษเลยก็ว่าได้ เพราะเหตุว่าบทหนังเรื่องนี้ เต็มไปด้วยมิติและก็ความซับซ้อน

สำหรับในการสำรวจตัวละคร ได้อย่างมีเชิงชั้น กล่าวได้ว่าบทหนัง สามารถพาคนดู ไปสอดส่องมุมมองต่าง ๆ ของคาแรกเตอร์ ที่ไม่ใช่แค่เพียง ตัวละครหลักแค่นั้น ทุกตัวละครในหนัง เรื่องมีภูมิหลังและก็ปมของตัวเอง เกือบจะทั้งสิ้น และก็หนังก็ใส่รายละเอียด มาได้กำลังพอดี

ทั้งบทหนังเรื่องนี้ ยังจัดจ้านด้วยการ หยิบใส่ประเด็นที่มองดู อาจจะธรรมดา ๆ แต่กลับสร้างความอิมแพค ได้อย่างเหลือเชื่อ ทั้งยังประเด็นความสัมพันธ์กับมิตรภาพ เรื่อยไปถึงสายใยในครอบครัวแบบไทย และก็เหวี่ยงไปเฉียด

ถึงประเด็นละเอียดอ่อน อย่างความเชื่อนับถือ ทางศาสนาด้วย ที่จะต้องยอมรับเลยว่า BlueAgain สามารถไล่ตาม เก็บทุกรายละเอียด เอาไว้ได้อย่างคุ้มค่า เป็นบทหนังที่ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ได้อย่างเต็มที่

เรื่องทุ่มเทเปย์หนัก ต้องยกให้หนุ่ม “ฟลุ้ค ณธัช ศิริพงษ์ธร” เค้าเลยจ้ะ ที่ล่าสุดทุ่มงบ 6 หลัก จัดร้าน THE LITTLE WHITE HOUSE CAFE ธุรกิจของเจ้าตัว ให้เปลี่ยนเป็นธีมวันคริสต์มาส ต้อนรับเทศกาล แห่งการเฉลิมฉลอง ให้ได้ไปเช็คอินถ่ายรูปสวย ๆ ชิมเมนูฉ่ำ ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อ เป็นของขวัญ ส่งท้ายปีให้ลูกค้ารวมทั้ง แฟนคลับ

ทั้งออกแบบตกแต่ง ไปคัดสรรอุปกรณ์ มาด้วยตนเอง นอกนั้นยังอัปเดต ผลงานซีรีส์ ทิ้งทวนท้ายปี รวมทั้งผลงานปีหน้า แบบรัว ๆ ให้ได้ติดตาม กันอีกด้วย

ฟลุ้ค ณธัช เผยว่า

” วันคริสต์มาสเป็นอีกหนึ่ง เทศกาลที่คนตั้งตาคอย เพราะว่ามันเป็นการเฉลิมฉลอง เพราะอะไรถึงควักถึง 6 หลักเลย จริง ๆ มันก็รวม ๆ หลายอย่างครับ รวมไปถึงต้นคริสต์มาส ไฟ และของตกแต่ง เครื่องดื่มด้วยครับ ฟลุ้คอยากให้ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์ค ที่คนจะมาถ่ายรูป ในช่วงช่วงคริสต์มาส รวมทั้งปีใหม่นี้ครับ

ฟลุ้คชอบช่วงคริสต์มาสอยู่แล้ว เพราะว่ามันเป็นอีกหนึ่ง สัญญาณว่าเรากำลังจะขึ้นปีใหม่ รวมทั้งบรรยากาศจะอบอวล ไปด้วยบรรยากาศ แห่งการเฉลิมฉลอง ก็มีทั้งไปเดินหาซื้อ ดูของเอง เพื่อที่เราจะได้เห็นของ รวมทั้งวัสดุจริง ๆ ไม่ได้คิดคนเดียวครับ มีพี่ผู้จัดการช่วยดูแล

และช่วยจัดครับ เราใช้เวลาจัดเตรียมจัดกัน ก็เป็นเดือน มุมหน้าร้าน เป็นมุมไฮไลท์ เราวางต้นคริสต์มาส แบบจัดเต็ม พยายามจัดให้ออกมา มีความเป็นวินเทอร์ มีหิมะตก พยายามหารายการอาหาร ที่มันเข้ากับช่วงเทศกาล รวมทั้งมีความแปลกใหม่ การันตีว่าอร่อยแน่นอน ครับ เป็นปีแรกที่เราได้จัด ก็เชิญชวนนะครับร้าน https://www.facebook.com/TheLittleWhiteHouseCafe เปิด ทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เปิดตั้งแต่ 11.00-20.00น. ครับ

ส่วนผลงานปัจจุบันนี้ มีซีรีส์กำลังออนแอร์ เรื่องเชือกป่านครับ Between Us the series ทางช่อง One31 แล้วก็มีเรื่อง 609 Bedtime Story ครับผม แฟนคลับ สามารถดูกันได้ ทั่วโลกเลยครับ ส่วนปีหน้า ก็จะมีซีรีส์ อีก 2 เรื่อง Make a Wish ภารกิจนายเทวดา และ Shadow เงา ล่า ตาย ครับ และก็มีภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่อง The sis อมตะพันธุ์ ที่จะเข้าฉาย วันที่ 20 ก.ค. 2023 ครับ

เรื่อง ‘609 Bedtime Story’ เป็นอีกหนึ่งเรื่อง ที่ต้องการแนะนำ ให้ดูกันครับ เนื้อเรื่องมีความแปลกใหม่ โลกคู่ขนาน แบบเวลาสวนทางกัน อยากที่จะให้ทุกคนได้ ดูซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องฝีมือคนไทย ฝากผลงาน ของฟลุ้คด้วยนะครับ ช่วงปลายปีอาจมี กิจกรรมจัดปาร์ตี้ หมูกระทะเหมือนปีที่แล้วครับ ติดตามอัปเดตกันอีกทีครับ ”

เพียงเริ่มก็ปัง “ฟลุ้คณธัช” ทำธุรกิจคาเฟ่ 2 เดือน ไปได้สวย

เรื่องงานก็ปัง ธุรกิจใหม่ก็ไปได้สวย สำหรับนักแสดงหนุ่ม “ฟลุ้ค ณธัช ศิริพงษ์ธร” ที่ล่าสุดพึ่งจะทุ่มทุนเปิด “ร้าน THE LITTLE WHITE HOUSE CAFE” แถวพัฒนาการ เป็นของตนเองครั้งแรก กับร้านสีขาวสไตล์มินิมอลสุดเก๋ ที่มีทั้งเมนูเครื่องดื่ม และเบเกอรี่หลากหลาย

งานนี้เปิดร้าน ทั้งทีหนุ่มฟลุ้ค ก็ไม่พลาดที่ จะไปเรียนรู้การทำกาแฟ รวมทั้งการเป็นพ่อค้า ทั้งชงทั้งขาย ด้วยตัวเอง เปิดไปได้กว่า 2 เดือน ก็ขายดีหายเหนื่อย กันเลยจริง ๆ

ฟลุ้ค ณธัช เผยว่า “ เป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ของฟลุ้คเองครับ ต้องการทำร้านกาแฟ ก็ต้องไปเรียนรู้ ตั้งแต่เรื่องเมล็ดกาแฟ การทำกาแฟ และชงลาเต้อาร์ต มีโอกาสได้ไปเรียน เป็นให้คนสอนมาสอนที่ร้านเลย เริ่มจากศูนย์

ไม่มีความรู้เรื่องกาแฟรวมทั้งการชงกาแฟเลย ด้วยเหตุนี้เราจะต้องมีความรู้พื้นฐานนิดนึง เมนูกาแฟ ที่ฟลุ้คชอบ จะเป็นอเมริกาโน่ยูซุ

อันนี้ต้องการเสนอ เรารู้สึกว่าสำหรับคนที่ไม่ชอบดื่มหวาน ก็กินได้ เพราะว่ามันไม่ได้หวาน รวมทั้งมีความเปรี้ยว ของรสชาติส้มยูซุที่ตัดกับกาแฟ ในร้านก็มีขนมด้วย เป็นเค้ก

ถ้าเป็นเรคคอมเมนด์ ก็จะเป็นเค้กมะพร้าว ที่เราชอบอร่อย เปิดร้านมาประมาณ 2 เดือนแล้ว ฟีดแบคค่อนข้างจะดีนะครับ ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับ หรือคนแถวนี้ ก็มาอุดหนุนกันค่อนข้างจะเยอะเลย อย่างช่วงวันแรก ที่มีโอกาสได้ เข้ามาชงเองด้วย

พูดได้ว่าตั้งแต่ตอนเช้าจนถึงร้านปิด ก็ไม่ได้นั่งเลย ทุกคนแห่มาให้กำลังใจ กันมากมายครับ ฟลุ้ครู้สึกเปิด ประสบการณ์ใหม่ดี ในช่วงที่ผ่านมาพอเราทำงานก็มี แบ่งเก็บเงินส่วนนึง อีกส่วนนึงเราก็แบ่ง ไว้ทำธุรกิจตรงนี้ด้วย ต้องการใช้เงินก้อน ที่เราแบ่งมาตรงนี้ เพื่อต่อยอดทำธุรกิจดีกว่า นับได้ว่าเป็นอีกก้าวนึง

รวมทั้งเป็นก้าวแรกที่สำคัญ ในชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะว่าถือเป็นธุรกิจชื่อเราเต็มตัว ถือเป็นธุรกิจแรกของตนครับ ขอฝากร้าน THE LITTLE WHITE HOUSE CAFE ด้วยนะครับ อยู่ตรงถนนพัฒนาการตัดใหม่ ใครจะมา ก็สามารถเสิร์ช ในกูเกิ้ลแมพได้เลยนะครับ ร้านเปิดทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ แวะมาอุดหนุน กันได้ครับผมนะครับ ”

ประวัติ ฟลุ้ค ณธัช ศิริพงษ์ธร

ฟลุ้ค ณธัช นักแสดงวัยรุ่นชายชาวไทย เกิดวันที่ 1 มิถุนายน พุทธศักราช 2539 ฟลุ้คเข้าสู่เส้นทาง สายบันเทิง จากการเริ่ม เป็นนักแสดงใน สังกัดวายุฟิล์ม โปรดักชั่น เขาส่งผลงานการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกเรื่อง เกรียนฟิคชั่น ในปีพุทธศักราช 2556 ก่อนที่จะมาเป็นที่รู้จัก จากการแสดงภาพยนตร์เรื่อง พี่ชาย My Bromance จากนั้นเขาก็ได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง ตีสาม คืนสาม 3D หลังหมดสัญญา ฟลุ้คก็ผันตัว เป็นนักแสดงอิสระ

ศาลอาญาอนุญาต ให้ปล่อยตัวชั่วคราว นางเอกสาว “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” หลังถูกขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ในคดีแชร์ลูกโซ่ฟอเร็กซ์ 3 ดี นานกว่าสามเดือน ทนายยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์เป็นแคชเชียร์ เช็ค 5 ล้านบาท ภายใต้ข้อตกลงห้ามออกนอกประเทศ ถ้าเกิดเปลี่ยนที่อยู่จะต้องบอกให้ทราบ

แล้วก็รายงานตัวต่อศาลทุกเดือน เวลาที่นักแสดงหนุ่ม “กระทิง-ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์” นำหลักฐานเข้า ให้คำให้การกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ในคดีเดียวกันแล้ว

จากกรณี นางเอกสาว พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช

ถูกพนักงานอัยการ ฝ่ายคดีพิเศษ 4 ฟ้องเป็นจำเลย ในคดีแชร์ลูกโซ่ ฟอเร็กซ์ 3 ดี พร้อมมารดา พี่ชายแล้วก็พวกรวม 24 คน มูลค่าความเสียหาย หลายพันล้านบาท นางเอกสาวแล้วก็ครอบครัวต่างไม่ได้ รับการประกันตัว ถูกส่งไปขังที่เรือนจำ

ตั้งแต่วันที่ 18 เดือนสิงหาคม ตอนที่ทนายของนางเอกสาว แล้วก็ครอบครัวพยายาม ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว มาแล้วหลายครั้ง

ความคืบหน้า ที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 30 เดือนพฤศจิกายน ทนายของนางเอกสาว พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ต่อศาลอาญาอีกรอบ ขอปล่อยชั่วคราว นางสาวสาวิกา ไชยเดช จำเลยที่ 7 เพียงผู้เดียวในชั้นพิจารณาคดี มีหลักทรัพย์เป็นแคชเชียร์เช็ค 5 ล้านบาท ประกอบคำร้อง ให้ศาลพิจารณาอนุญาต

ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เมื่อเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการปล่อยตัว นักแสดงสาวพิ้งกี้สาวิกา ไชยเดช ตามหมายปล่อยของศาลหลัง มีคำสั่งอนุญาต ให้ประกันตัว มีญาติของพิ้งกี้ขับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน 1 ขย 8415 จังหวัดกรุงเทพ มารับ

ดังนี้ นักแสดงสาว อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว นั่งอยู่ด้านเบาะหลังฝั่งซ้าย ระหว่างนั้น ยกมือสวัสดีกลุ่มสื่อมวลชน ที่มารอคอยทำข่าว ที่ข้างหน้าทัณฑสถานหญิงกลาง พร้อมทำสัญลักษณ์มือ เป็นรูปหัวใจแทนคำขอบคุณ ก่อนที่จะเดินทางกลับในทันที

เบื้องต้นศาลพิจารณาแล้ว มีความเห็นว่า จำเลยยืนยันในชั้นตรวจ พยานหลักฐานว่าเป็นเพียงนักลงทุน เสนอพยาน 8 ปาก กับเสนอจ่ายเงินสด 5 ล้านบาท เป็นหลักประกันสำหรับในการปล่อยตัวชั่วคราว มีคำสั่งอนุญาต ให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 7 ตีราคาประกัน 5 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข ห้ามเดินทาง ออกนอกราชอาณาจักร

ถ้าเกิดเปลี่ยนถิ่นที่อยู่ ให้แจ้งต่อศาล ใน 7 วัน แล้วก็ให้รายงานตัว ต่อศาลทุกเดือน จวบจนกระทั่งจะมีเหตุ เปลี่ยนแปลงแล้วก็ให้แจ้งตำรวจ สตม.รู้ด้วย ต่อจากนั้นจึงออกหมาย ปล่อยไปยังเรือนจำ ทัณฑสถานหญิงกลางโดยทันที

อีกด้าน ที่กองธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เวลา 12.35 น. กระทิง-ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์ นักแสดงคนดัง เดินทางมาพร้อมกับทนาย แล้วก็คนสนิท เพื่อเข้าให้คำให้การในฐานะ พยานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ กับพนักงานสอบ

สวนคดีพิเศษในคดี แชร์ลูกโซ่ฟอเร็กซ์ 3 ดี โดยขึ้นลิฟต์โถง 3 ต่อจากนั้นเลือกเข้าประตูห้อง กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ฝั่งตรงข้ามห้อง สำนักงานรองอธิบดี สำหรับประเด็นการสอบปากคำ ร้อยตำรวจเอกวิษณุ ฉิมตระกูล ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ

เปิดเผยว่าเป็นการสอบถาม ตามประเด็นที่พนักงานสอบสวนตั้งไว้ ทั้งยังลักษณะการลงทุน หรือเส้นทางการเงิน เมื่อสอบปากคำในฐานะ พยานเสร็จสมบูรณ์รวมทั้ง ได้รับเอกสารข้อมูลต่าง ๆ จากเจ้าตัวเเล้ว ถึงจะพิจารณา ร่วมกับองค์ประกอบอื่น ๆ ในคราวหลังว่าจะ มีการแจ้งข้อกล่าวหา ตามที่มีบุคคล มาร้องทุกข์กล่าวโทษหรือไม่

ภายหลังสอบสวนนานกว่า 5 ชั่วโมง กระทิง-ขุนณรงค์ นักแสดงหนุ่ม ออกจากห้องสอบสวนมาเข้าห้องน้ำ ระหว่างนั้นเปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอ เรียกมาสอบปากคำในฐานะพยาน ส่วนเรื่องเอกสาร เตรียมมาอย่างเดียว คือ รายการเดินบัญชี รายละเอียดอื่นขออนุญาตไม่เปิดเผย

เพราะว่าไม่ทราบ สามารถพูดได้มากน้อย มากแค่ไหน ที่เคยแจ้งเลื่อน เพราะว่าติดคิวถ่ายละคร ตั้งใจต้องการคุยให้จบ จะได้กลับมาทำงานปกติ รู้สึกสบายใจ ที่มาชี้แจงในคราวนี้ แล้วก็รับรองในความบริสุทธิ์ ยืนยันว่าไม่ได้ ชักชวนบอล-กัมมัญญ์ กลมแก้ว แล้วก็โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร ให้เข้าร่วมลงทุน

ผู้จัดการเคลื่อนไหวหลังรู้ พิ้งกี้สาวิกา ถูกปล่อยตัว ธัญญ่า โผล่ยินดี

ภายหลังที่นักแสดงสาว พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช ได้รับการประกันตัวชั่วคราว โดยทนาย ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เป็นเช็คจำนวนเงิน 5 ล้านบาท แล้วก็มีเพียงพิ้งกี้เท่านั้น ที่ได้ออกมา ภายหลังที่เจ้าตัว เข้าไปอยู่ในเรือนจำนานกว่า 3 เดือน ในคดี โกงแชร์ Forex-3D

ซึ่งข่าวนี้ ถือเป็นข่าวดีของ พิ้งกี้ สาวิกา แล้วก็ทำให้คนสนิท ของนักแสดงสาว รู้สึกดีใจไม่น้อยที่นางเอกสาว ได้รับการประกันตัว ในคราวนี้ หนึ่งในนั้นคือ พี่เต้ ผู้จัดการส่วนตัว ของพิ้งกี้ที่รัก แล้วก็ดูแลกันมานานกว่า 28 ปี ก็ได้โพสต์รูปคู่

กับพิ้งกี้แล้วก็เขียนแคปชั่นสั้น ๆ แต่ซึ้งกินใจ ว่า “ลูกสาวแม่” พร้อมทั้งอีโมจิหัวใจสีแดง หน้ายิ้มน้ำตาไหล แล้วก็ภาพประนมมือ

งานนี้ก็มีคนบันเทิง เยอะมากที่มาคอมเมนต์ ยินดีกับการที่ พิ้งกี้ ได้รับการประกันตัวแล้วก็ถูกปล่อยตัว ในวันนี้ อาทิเช่น ธัญญ่า ธัญญาเรศ ที่เข้ามาคอมเมนต์ ว่า ยินดีด้วยนะคะพี่เต้ เบนซ์ ปุณยาพร ที่คอมเมนต์ว่า ดีใจ แล้วก็ นิว วงศกร ที่ส่งอีโมจิหัวใจสีแดง ให้อีกด้วย

“เบนซ์ ปุณยาพร” โพสต์ดีใจ หลังศาลให้ประกันตัว “พิ้งกี้ สาวิกา”

ภายหลังที่ศาลอาญา อนุญาตให้ปล่อยตัว ชั่วคราวนักแสดง สาว “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” ในคืนเมื่อวานนี้ ล่าสุด เพื่อนคนสนิท อย่างสาว “เบนซ์ ปุณยาพร พูลพิพัฒน์” ได้โพสต์ภาพ คู่กับพิ้งกี้ พร้อมทั้งแคปชั่นที่ว่า ” ดีใจ @pinkysavika มาลุยงานต่อ นะเพื่อน ”

ล่าสุด ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ สาวเบนซ์ กับประเด็นนี้ โดยเผยว่า ” ดีใจมาก เพราะมันเป็นเหมือนข่าวดี ที่รอลุ้นเพื่อนมานาน ให้กำลังใจมาตลอด ด้วยการส่งข้อความ หาเพื่อน ผ่านผู้จัดการ แล้วก็มีการส่งขนม ให้คุณพ่ออีกด้วย

โดยมาก เบนซ์ก็จะถาม ทางผู้จัดการของน้องไป คือตอนแรก ก็มีการพูดคุยเรื่อง ไปเยี่ยมพิ้งกี้ แต่ก็รอความพร้อม จากเพื่อน ทุกอย่างที่ส่งไป เพื่อนก็ได้รับ เราก็ทำงานร่วมกัน แล้วก็เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเด็ก ”

ช่วงเวลาที่เนื้อความ ที่อยากจะพูดกับพิ้งกี้ สาวเบนซ์ได้เผยว่า ” เบนซ์จะเข้าไปกอด และให้กำลังใจนาง เพราะ เขาจะมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เขาทำได้ แล้วก็กลับมาลุยงาน ได้เต็มที่แน่ ๆ เป็นเด็กที่มีวินัย มีความรับผิดชอบ ส่งพลังบวกมาตลอด ซึ่งผู้จัดการก็รอ ไปหาพิ้งกี้ด้วยเหมือนกัน อันนี้พูดในฐานะ ที่เราเป็นเพื่อนกัน ไม่เกี่ยวกับเรื่องคดี เบนซ์เชื่อว่าจะผ่านจุด ๆ นี้ ไปได้ อยากจะให้กำลังใจแล้วก็คอยซัพพอร์ตไปเรื่อย ๆ “

Don’t Worry Darling เดิมทีนั้น มันเป็นหนังที่โปรแกรม จะเข้าฉายในโรงบ้านเรา ก็นั่นแหละ แต่ว่าไม่รู้ว่าไป ๆ มา ๆ ก็เลยถูกถอดวันฉายออกไป ดื้อ ๆ ภายหลังที่กระแสของหนัง และก็รายได้ของหนัง ไม่ค่อยจะปัง สักเท่าไหร่นัก แต่ว่าจนแล้วจนรอดเราก็ได้ดู “Don’t WorryDarling” หนังระทึกขวัญ ที่ผลงานจัดจ้าน ที่ร่วมดาราผู้แสดง ชั้นนำเอาไว้ ได้อย่างน่าสนใจ

Don’t Worry Darling คือเรื่องราวของ อลิซ และก็ แจ็ค

โชคดีมากพอ ที่ได้อาศัยอยู่ในชุมชน ในฝันของใครอีกหลาย ๆ คน ที่ชื่อว่า วิคตอรี่ หมู่บ้านขององค์กรหนึ่ง ที่ให้พนักงานชาย ผู้ร่วมโปรเจกต์ลับวิคตอรี่ อาศัยอยู่กับครอบครัวของเขา มุมมองของโลกอันสวยงามในปี 1950 ริเริ่ม โดย แฟรงค์ ประธาน ไลฟ์โค้ช ผู้สร้างแรงบันดาลใจ และก็วิสัยทัศน์ ที่เสมอภาค โดยเขานั้น ยึดทุกแง่ทุกมุมของชีวิต ในดินแดนแห่ง ความฝันนั้นเป็นหลัก

ในขณะทีสามี ใช้เวลาทุก ๆ วันของเขา ในฐานทัพหลัก ของโปรเจกต์วิคตอรี่ เพื่อทำงานเกี่ยวกับ การพัฒนาวัสดุเพื่อความก้าวหน้า เหล่าภรรยาของพวกเขา รวมทั้ง เชลลีย์ คู่รักคนงามของ แฟรงค์ ต่างก็ใช้เวลาเพลิดเพลิน ไปกับความสวยงดงาม ความหรูหรา

และก็แสงสีเสียง ชวนมึนเมาในชุมชนของพวกเขา ชีวิตนั้นช่างสมบูรณ์แบบ ถึงแม้ทุกครอบครัว ต้องไปพบองค์กรใหญ่ อย่างสม่ำเสมอ และก็แลกกับการ ที่พวกเขาห้ามขัดขืน ห้ามตั้งข้อสงสัยอะไรก็ตามเกี่ยวกับวิคตอรี่ เด็ดขาด

นี่คือว่า ผลงานที่ผู้แสดงสาวชื่อดัง “โอลิเวีย ไวลด์” ได้รับโอกาสจากสตูดิโอใหญ่ ให้กับมากำกับหนัง เป็นครั้งแรก ถึงแม้เธอจะสั่งสมประสบการณ์ จากผลงานเรื่องก่อน ๆ ทั้งหนังสั้น, มิวสิควิดีโอ และก็หนังเปิดตัว เรื่องดัง Booksmart เมื่อไม่กี่ปีก่อน

การกลับมาคราวนี้ ถือว่าเป็นงานท้าทาย สำหรับเธอ เพราะว่าจะต้องมาหยิบจับ งานสเกลที่ใหญ่ขึ้น จากเดิมหลายเท่าตัว

รวมทั้งนั่นแหละ ที่น่าจะเป็นหนึ่ง ในปัญหาของ Don’tWorry Darling เนื่องจากว่าหนังมีสเกล และก็เนื้อหาที่ค่อนข้างใหญ่ เกินตัวโอลิเวีย ที่บอกตรง ๆ เธอยังคงค่อนข้างใหม่

กับวงการเบื้องหลัง ในฐานะผู้กำกับอยู่ เธอเคยเพียงกำกับกองถ่ายเล็ก ๆ กับหนังนอกกระแส มาเท่าไหร่ เมื่อจะต้องมาจับ งานสร้างภาพยนตร์เมนสตรีมเช่นนี้ พลังและก็แนวทางของเธอนั้น บางทีอาจยังไม่สามารถควบคุมหนังเรื่องนี้ ได้พอเพียง

ในส่วนของบทหนัง ที่ได้นักเขียนคู่บุญ “แคธี ซิลเบอร์แมน” กลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง แต่ว่าก็กลายเป็น โอลิเวีย ไวลด์ นักเขียนสาวผู้นี้ ยังค่อนข้างมีประสบการณ์ ไม่มากสักเท่าไหร่ ถึงแม้เธอจะไปได้สวยกับ Booksmart กับก่อนหน้าที่ มีหนังรอมคอม Isn’t It Romantic ที่ก็ไม่ได้เป็นหนัง ที่ปังอะไร เมื่อจะต้องมารับงานเขียน หนังเชิงพาณิชย์แบบเน้น ๆ ก็คงจะใหญ่เกินตัวไป สำหรับเธอด้วยเหมือนกัน

นั่นก็เลยส่งออกมา ทำให้บทหนังของ Don’t Worry Darling ค่อนข้างเรียบเฉย แม้จะพยายามสร้างมิติ เชิงซ้อนออกมา ให้ดูหวือหวา กลับยังไม่อาจจะซื้อใจ ผู้ชมไปได้สักเท่าไหร่ แล้วยิ่งมาผนวก เข้ากับแนวทางการกำกับ

และก็งานสร้างด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกว่า หนังหลงทิศหลงทาง ไปในบางจุด เป็นหนังที่มีจุดไคล์แมกซ์ แต่ว่าเสมือนไม่มี หลายแนวทางดูยังไม่ใช่ ที่ใช่ทางในตัวของหนัง โดยเฉพาะการเล่าเรื่อง ที่ชวนหัวเสียไป ในบางคราว

แต่ว่าสิ่งเดียว และก็สิ่งที่เยี่ยมที่สุดที่ในหนัง Don’t Worry Darling เรื่องนี้มีอยู่นั่นก็คือ “ฟลอเรนซ์ พิวจ์” เพราะว่าเธอเป็นหญิงแค่ หนึ่งเดียวที่สามารถแบกหนังทั้งเรื่องนี้ เอาไว้บนบ่าตนเอง ตามลำพัง นี่เป็นผลงาน การแสดงระดับ มาสเตอร์พีชของเธอ ที่กลายเป็นงานแสดงที่ดี ใช้ได้กลับมาอยู่ในหนัง ที่ไม่มีอะไรให้น่าจำเท่าไหร่นัก การมีอยู่ของฟลอเรนซ์ เป็นไฮไลต์ ที่เด็ดที่สุดของเรื่องนี้

การแสดงแบบน้อยแต่มาก ที่ให้ผลลัพธ์ออกมา ได้อย่างพึงพอใจของเธอ

พยายามที่ช่วยแก้ไข จุดอ่อนต่าง ๆ ของหนังเรื่องนี้ในหลายซีน แต่ว่าถึงแม้ว่าการแสดงของเธอ จะดีสักแค่ไหน ก็ยังถูกกลบไปด้วยส่วนประกอบ ที่ค่อนข้างไม่น่าอภิรมย์ สักเท่าไหร่ในหนังเรื่องนี้ ไปอย่างโชคร้าย นั่นก็เลยเป็นเหตุผลที่ดี เพียงสิ่งเดียว ที่พบเจอได้ ในหนังเรื่องนี้

ขณะที่นักแสดงคนอื่น ไม่ว่าจะเป็น “แฮร์รี่ สไตล์ส” ที่ก็ยังเข้าไม่ถึงบทบาทนี้ สักเท่าไหร่ ด้วยชั่วโมงบินทางการแสดงของเขา ยังค่อนข้างน้อยอยู่ เป็นไอดอลหนุ่ม ที่มีฝีมือทางการแสดงอย่างชัดเจน

แต่ว่ายังจะต้องขัดเกลา และก็ใช้เวลามากยิ่งกว่านี้ และ “คริส ไพน์”, “เกมมา ชาน”, “กิกี้ เลย์น” รวมถึง โอลิเวีย ไวลด์ พวกเขาต่างให้ การแสดงที่ดีตามมาตรฐาน เพียงมันยังไม่เพียงพอ ที่สามารถจะช่วยกันพยุงหนัง เอาไว้ได้แบบทีม

แต่ว่าเดี๋ยวจะหาว่า ใจจืดใจดำเกินไป เอาจริง ๆ อีกสิ่งที่อยากจะดู หนังใน Don’t Worry Darling เรื่องนี้อยู่เช่นเดียวกัน ก็คือส่วนประกอบโปรดักชั่นดีไซน์ต่าง ๆ ยอมรับเลยว่าเรื่องนี้ ทำมาค่อนข้างดีเลย

ถือว่าเป็นงานสร้าง ที่ค่อนข้างลงดีเทล และก็น่าตื่นตาตื่นใจได้ดีกว่านี้ ถ้าว่าได้มีประสบการณ์ได้ ไปดูเรื่องนี้ในโรงหนัง เพราะว่านับว่าส่วนประกอบตรงจุดนี้ ของเขาก็ไม่ได้ น่าเกลียด มีท่วงทำนองและก็รสนิยม ที่จัดจ้านพอตัวเลย

โดยภาพรวม แล้วนั้น Don’t WorryDarling บางทีก็อาจจะไม่เชิงว่าเป็นหนัง ที่น่าผิดหวัง เพียงแค่ผู้ชมอาจจะ คาดหวังมากจนเกินไปเพราะว่าได้เห็น ทีมนักแสดงชุดใหญ่ ไฟกะพริบขนาดนี้

แต่ว่าโดยรวม ของหนังออกมา ได้แบบยังไปไม่สุดสักทาง บทหนังไม่ถึงกึ๋น การเล่าเรื่อง ยังมีปัญหา แต่ว่านับว่าดี ที่ยังมีนักแสดงที่พยายาม ช่วยยื้อศักยภาพ ของหนังเอาไว้อย่างเต็มที่ ท้ายที่สุดก็เลยออกมา เป็นหนังที่ค่อนข้างโคลงเคลง ไปสักหน่อย ดูได้พอผ่าน ๆ กลับยังไม่มีอะไร ให้ตราตรึงใจเท่าไรนักเท่านั้นเอง